ซุ่มยิงเมียคนทำนากุ้งดับปริศนา คาดโกรธแค้นส่วนตัวหรืออาจยิงผิดตัว
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 กันยายน 2566 ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำนุ้ย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงผู้หญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณขนำนากุ้ง หมู่ 2 ต.ปากพูน หลังเกิดเหตุสามีของผู้หญิงที่ถูกยิงนำร่างคนเจ็บขึ้นเรือหางยาวมาขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเรือปากน้ำ หมู่บ้านกลาง หมู่ 4 ต.ปากพูน เพื่อนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่คนถูกยิงทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตบริเวณศาลาเอนกประสงค์ ท่าเรือปากน้ำดังกล่าว
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ประสิทธิ์ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช , พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช , พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส. , พ.ต.ท.มนัส พิทักษ์บูรพา สวป. , ตำรวจชุดสืบสวน , ตำรวจสายตรวจตำบลปากพูน , ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช , แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช , เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งนครศรีธรรมราช ร่วมเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนและชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุบนศาลาเอนกประสงค์ พบศพผู้เสียชีวิตชื่อนางเพชรรัตน์ หรือมัด อายุ 34 ปี อยู่หมู่ 2 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าบริเวณกกหูขวาจำนวน 4 รู กระสุนทะลุท้ายทอย 2 รู นอนเสียชีวิตในชุดนุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สวมเสื้อยืดสีม่วงดำ เลือดไหลนองเต็มพื้น โดยบริเวณท่าเรือใกล้จุดที่ทำการชันสูตรพลิก เจ้าหน้าที่พบนายเอกรัตน์ หรือหนึ่ง อายุ 40 ปี สามีผู้ตาย นั่งร่ำไห้กอดลูกๆและญาติๆด้วยความเศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนปากคำนายเอกรัตน์ ให้การว่า ตนและภรรยามีอาชีพทำนากุ้ง โดยเช่าที่ดินของนายทุนคนหนึ่ง ทำนากุ้งกับภรรยาบริเวณท้องที่หมู่ 2 ต.ปากพูน อ.เมือง ซึ่งนากุ้งอยู่ห่างจากท่าเรือที่นำศพภรรยาของตนมาขึ้นฝั่งไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำ ขณะตนและลูกสาว 2 คน วัย 9 ขวบ และ 8 ขวบ นั่งอยู่ในขนำนากุ้ง โดยที่นางเพชรรัตน์ หรือมัด ภรรยา ออกไปยืนตกปลาบริเวณริมขนำ ทันใดนั้นตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังสิ้นเสียงปืนตนและลูก รีบออกมาดูนอกขนำ พบร่างนางเพชรรัตน์ ถูกยิงเข้าหัวนอนฟุบเลือดอาบ โดยไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใครมาจากไหน แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะแอบซุ่มยิงตอนภรรยา กำลังยีนตกปลา
หลังจากนั้นตนและลูก รีบอุ้มนางเพชรรัตน์ ที่โชกเลือด ขึ้นเรือหางยาวขับเรือไปตามลำคลองท่าแพ เพื่อขึ้นฝั่งที่ท่าเรือดังกล่าว เพื่อจะนำร่างภรรยาของตนส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการภรรยา เสียชีวิตที่บริเวณท่าเรือ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบเหมือนกันว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะตนและภรรยาไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครในหมู่บ้าน
ขณะที่ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ แต่สันนิษฐานน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวบางเรื่องกับคู่อริบางคนในหมู่บ้าน หรืออาจยิงผิดตัว คนร้ายอาจจะต้องการยิงนายเอกรัตน์ แต่ภรรยา ตายแทน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเร่งคลี่คลายคดีหาสาเหตุการตายที่แท้จริงเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายธนาวุฒิ สงนาค อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพปากพูน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบช่วยเหลือ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าคนเจ็บอยู่ในเรือหางยาว ซึ่งเทียบท่าริมฝั่ง เมื่อเข้าไปช่วยเหลือนำคนเจ็บขึ้นจากเรือเพื่อจะรีบส่งโรงพยาบาล พบว่าคนเจ็บเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ส่วนสาเหตุสอบถามสามีคนตาย เล่าเบื้องต้นว่า ก่อนเมียถูกยิงกำลังยืนตกปลาที่หน้าขนำนากุ้งดังกล่าว
-005