ตร.บางเขนหิ้ว'ไอ้เอ็ม'กับเมียใจโหดฝากขัง 2 สำนวนคดีอำมหิตทำร้ายลูก 2 ขวบจนตายก่อนอำพรางศพฝังปูน กับใช้เหล็กลนไฟร้อนๆ นาบตัวทำเมียเก่า พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ไร้เงาญาติยื่นประกันส่งนอนคุก
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางเขนได้ นำตัวนายส่องศักดิ์ ส่งแสง อายุ 46 ปี พ่อใจโหดฆ่าลูกตัวเอง และน.ส.สุนัน นาหัวนิล อายุ 40 ปี ภรรยา สองผู้ต้องหาคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายร่วมกันซ่อนเร้นย้ายทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก รวม 2 คำร้อง
โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บางเขนได้ร่วมเข้าไปช่วยเหลือเด็กที่ถูกบิดาทำร้ายร่างกายโดยได้ทำการช่วยเหลือเด็กหญิง 2 คน อายุ 12 ปีและ อายุ 4 ปี ออกมาอยู่ในความดูแลแต่ตรวจไม่พบเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกสาวอีกคนจากการสืบสวน เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไป จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำเบื้องต้นโดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การในแนวทางเดียวกันว่านายส่องศักดิ์ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ได้พาไปพบแพทย์ กระทั่งเสียชีวิตจากนั้นได้ร่วมกันนำร่างของขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส ทะเบียนกท5042 กำแพงเพชร ไปที่บ้าน ในต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษณ์ จ.กำแพงเพชร
ระหว่างทางได้แวะซื้ออุปกรณ์ที่ใส่ศพและฝังร่างพร้อมโบกปูนซีเมนต์ปิดทับไว้ใต้พื้นบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขุดพื้นก็พบกับร่างของเด็กหญิงเสียชีวิตจริงเหตุเกิดที่ อพาร์ทเม้นท์ซอยพหลโยธิน 65 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน การกระทำของผู้ต้องหาที่หนึ่งถึงสองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,199,290 วรรคหนึ่ง ชั้นจับกุมและสอบปากคำ ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 รับสารภาพ เฉพาะข้อหาร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ส่วนคำร้องฝากขังสำนวนที่ 2 ได้กล่าวหาว่า นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัส, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดฯ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (4), 309 ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยพฤติการณ์คดีนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.เจษฎา ภรรยาผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง กล่าวหาว่า ได้คบหากับนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา และอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ช่วงประมาณปี 2553 และมีบุตรด้วยกัน 5 คน กระทั่งปี 2558 ได้ย้ายครอบครัวมาพักอาศัยที่ซอยพหลโยธิน 50 แยก 11 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จนถึงปี 2564 ซึ่งระหว่างที่พักอาศัยอยู่นั้น ผู้ต้องหามักจะทำร้ายร่างกายผู้กล่าวหาเสมอ รวมทั้งยังได้ใช้ไคขวงกับมีดลนไฟจนเหล็กร้อนสีแดง และนำมาทาบตามร่างกายของผู้กล่าวหาจนเกิดเป็นแผลพุพองหลายแผล หากไม่ทำตามก็ข่มขู่จะทำร้ายให้ตาย
กระทั่งประมาณปี 2564 ผู้กล่าวหาได้แยกย้ายมาพักที่อพาร์ตเม้นต์ ซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กับลูกๆ แต่ผู้ต้องหาก็มาหาผู้กล่าวหาและลูกอยู่แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย
ต่อมาผู้ต้องหาก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิม โดยได้บังคับให้ผู้กล่าวหาถ่ายวิดีโอ จากโทรศัพท์มือถือ และส่งให้ผู้ต้องหาดู หากไม่ยอมทำตามผู้กล่าวหาและลูกจะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย และผู้ต้องหามักจะใช้ลูกของผู้กล่าวหาเป็นข้ออ้างในการบีบบังคับให้ทำการใช้ไขควงหรือมีดลนไฟมาทาบร่างกายตัวเองให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้กล่าวหาอยู่ในภาวะจำยอมเนื่องจากเป็นห่วงลูกของตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย
กระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณวันที่ 7 ส.ค.2566 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้ต้องหาได้บังคับให้ผู้กล่าวหาถ่ายวิดีโอ โดยใช้โทรศัพท์และให้ผู้กล่าวหานำมีดไปลนไฟและนำมาทาบที่น่องข้างขวาจนเกิดเป็นแผลพุพอง และให้ผู้กล่าวหาส่งให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้ต้องหาขู่ เช่นเดิมว่าหากไม่ยอมทำตามผู้กล่าวหาและลูกจะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย อย่างรุนแรง
การกระทำของผู้ต้องหาทำให้ผู้กล่าวหาได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบปรากฏว่า ตามร่างกายของผู้กล่าวหามีรอบแผลเป็นบนใบหน้า หัวไหล่ และน่องที่ขา ถือว่าเป็นแผลเป็นฉกรรจ์ตามร่างกายและหน้าเสียโฉมอย่างติดตัว ท้ายคำร้องฝากขัง ทั้ง 2 ฉบับพนักงานสอบสวน และผู้เสียหาย ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี ยากแก่การติดตามตัว และผู้เสียหายอาจได้รับอันตรายเนื่องจากผู้ต้องหาทราบที่อยู่ของผู้เสียหาย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองได้
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว จึงถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวไปคุมขังที่เรือนพิเศษกรุงเทพฯและทัณฑสถานหญิงกลาง. (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คุกคืนแรก! 'ไอ้เอ็ม'กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ กินข้าวได้ คุยจ้อกับเพื่อนผู้ต้องขัง)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี