วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'บิ๊กโจ๊ก'อนาคตเละ! 'จตุพร'ชี้เปรี้ยงส่อชวดผบ.ตร.-มีเดิมพันสูง

'บิ๊กโจ๊ก'อนาคตเละ! 'จตุพร'ชี้เปรี้ยงส่อชวดผบ.ตร.-มีเดิมพันสูง

วันพุธ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566, 07.21 น.
Tag : จตุพร บิ๊กโจ๊ก เว็บพนัน ตำรวจ
  •  

"จตุพร"เชื่อเส้นทางตำรวจของ"บิ๊กโจ๊ก"จบสิ้นแล้ว คงหมดโอกาสไปถึงผบ.ตร. ชี้ถูกกล่าวหาพัวพันเว็บพนันออนไลน์ คอมมานโดบุกค้นบ้านเป็นบทเรียนราคาแพง มีเดิมพันสูง กระทุ้งรัฐบาลเร่งรีบปฎิรูปตำรวจ สกัดเงินซื้อตำแหน่ง ยกระดับคุณภาพชีวิต มีรายได้ยังชีพอย่างมีเกียรติ มากศักดิ์ศรีผู้ผดุงคุณธรรม ระบุนำตัวแบบของศาลมาพิจารณาปรับองค์กรให้โปร่งใส

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 วานนี้ (26 ก.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า บทเรียนชีวิตรอบที่สามในหน้าที่ตำรวจของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก มีเดิมพันสูง แล้วยังส่อถึงเส้นทางไต่เต่าระดับไปถึงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจยิ่งยาก และโอกาสคงจบสิ้นแล้ว


นายจตุพร กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ตั้งคณะกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการเเละเลขานุการ มาตรวจสอบการบุกค้านบ้านพักบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) โดยกำหนดไว้เวลา 30 วันและต้องรายงานความคืบหน้าทุก 10 วัน

ทั้งนี้ ในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาเช้าตรู่ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมหน่วยคอมมานโด นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก และบ้านที่ซื้อไว้ให้ลูกน้องพักรวม 5 หลัง ในหมู่บ้านซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ เพื่อขยายผลการสอบสวนเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายตามระบุในหมายค้น

นายจตุพร กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 คนมาตรวจสอบนั้น ไม่รู้นายกฯ มีหลักคิดอะไรหรือไม่ แต่ที่สำคัญในวันที่ 27 ก.ย.นี้คณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) จะพิจารณาเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ เท่ากับว่าบิ๊กโจ๊กในฐานะ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 2 อาจจบเส้นทางได้รับพิจารณาเป็น ผบ.ตร.ในปีนี้ ส่วนจะจบตลอดไปในอนาคตหรือไม่ ต้องพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง

อีกทั้ง เห็นว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับบิ๊กโจ๊ก เพราะยังไม่ได้รับข้อกล่าวหาใดๆ แต่การออกหมายค้นเป็นการอนุมัติตามแหล่งที่ปรากฎในการสอบสวน ส่วนการออกหมายจับตำรวจอื่นๆ ที่เป็นลูกน้องนั้น เมื่อยื่นขอศาลก็ได้รับอนุมัติทั้งสิ้น

“กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การตรวจสอบบุคคลจะขึ้นดำรงตำแหน่งไม่ว่าในองค์กรใด หรือหน่วยงานใดต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และอย่าได้มองว่า การตรวจสอบนั้นเป็นการรังแกกัน แต่ควรท่องไว้ว่า ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ”

นอกจากนี้ เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายยึดปฎิบัติ เริ่มด้วยการตั้งข้อกล่าวหา แล้วต่อสู้ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นความจริงที่ดำรงอยู่ ดังนั้น การต่อสู้คดีของบิ๊กโจ๊กต้องเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนตำรวจใกล้ชิดถูกหมายจับแล้ว แต่ขณะนี้ศาลได้ให้ประกันตัวทุกคน

“สิ่งที่น่าสนใจ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพเรียบร้อยหมด แต่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลับไม่พิจารณาแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. ดังนั้น การประชุมวันที่ 27 ก.ย. อาจได้ ผบ.ตร.ใหม่เลย ส่วนบิ๊กโจ๊กคงต้องออกจากเส้นทางในปีนี้”

นายจตุพร กล่าวว่า แม้บิ๊กโจ๊กรอดพ้นจากบทเรียนมาก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งแล้วในปี 2552 และปี 2561 ข้อหาเรียกรับผลประโยน์ แต่ครั้งนี้เป็นบทเรียนชีวิตครั้งที่สาม ซึ่งมีเดิมพันแพงที่สุด และเป็นบทเรียนที่ต่างกันกับครั้งที่ 1-2 ดังนั้น เมื่อต้องมาผจญเส้นทางแบบนี้แล้วเป้าประสงค์ที่วางไว้ในตำแหน่ง ผบ.ตร.คงยากจะไปถึง

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการพิจารณา ผบ.ตร คนใหม่ จบในวันที่ 27 ก.ย.นี้ และข้อกล่าวหาบิ๊กโจ๊กจะจบลงอย่างไร ซึ่งมีข่าวหลากหลาย เช่น อาจถูกโยกออกหน่วยตำรวจ ไปอยู่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) กระทรวงยุติธรรม หรือไปสำนักนายกฯ เช่นถูกกระทำเมื่อปี 2561 แต่ขณะนี้มีอายุราชการเหลืออยู่อีกหลายปี จึงมีสิทธิต่อสู้กับข้อกล่าวหาต่างๆ ถ้าฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อีกรอบหนึ่ง คงมีโอกาสไปถึงเป้าประสงค์ได้ แต่รอบนี้ข้อกล่าวหาบิ๊กโจ๊กหนักและมีเดิมพันสูงมาก

“ความจริงแล้ว บทเรียนบิ๊กโจ๊กไม่ควรมีครั้งที่สามที่เป็นเดิมพันสูงสุดเลย เพราะก่อนหน้านี้ แม้ไม่ได้เป็น ผบ.ตร. แต่เป็นคนมีฤทธิ์เดชอยู่ จึงรอดกลับมาได้ อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาครั้งนี้ยังไม่เป็นคดี ดังนั้น บิ๊กโจ๊กถ้าคิดว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมย่อมมีสิทธิฟ้องคดีตามกฎหมายได้ และคนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้ง 8 ตำรวจลูกน้องก็ต้องต่อสู้ข้อกล่าวหา”

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่สังคมจะได้ประโยชน์คือ ต่อไปนี้การกระทำทุกอย่างจะไม่ง่าย เมื่อบิ๊กโจ๊กถูกกล่าวหาในคดีนี้ แต่เส้นทาง ผบ.ตร. อาจจบเลย หากไม่จบคงมีปัญหาอีกแบบ ส่วนรัฐบาลต้องพิจารณาคนใหม่ให้ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.ต่อไป

กรณีของบิ๊กโจ๊กจะลามมาสู่การเมืองภายนอกหรือไม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะ ตร.มีบุคลกรประมาณ 3 แสนคน ใหญ่อยู่ทั่วประเทศมาก จึงปฎิเสธการเมืองไม่ได้ ดังนั้น กรณีนี้ทุกฝ่ายต้องได้รับการพิสูจน์ตามข้อกล่าวหาและต้องเป็นการตรวจสอบเพื่อทำให้บ้านเมืองสะอาด จึงจะเกิดประโยชน์ โดยไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เข้าไปพัวพัน หรือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

นายจตุพร กล่าวว่า ใน ตร. ตำรวจดีมีจำนวนมาก แต่สถานีตำรวจทั่วไปพบว่า ตำแหน่งผู้กำกับการ (ผกก.) มีอายุน้อยกว่า รอง ผกก. ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างแสดงให้เห็นว่า เงินเป็นปัจจัยหลัก เพราะเงินคือตำแหน่ง คือหน้าทื่ ขณะเดียวกันเมื่อมีหน้าที่มีตำแหน่งก็หาเงิน มาเพื่อหาตำแหน่งและหน้าที่ต่อไปเป็นทอดๆ

“เมื่อ ผกก.อายุน้อยกว่า รอง ผกก. ใครลองบอกมาว่า ทุกอย่างในวันนี้เป็นไปด้วยความรู้่ความสามารถและความโปร่งใสทั้งปวง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินทองใดๆ ดังนั้น ถ้ามีระบบคุณธรรม ถูกต้องดีงาม เท่ากับเป็นการยกระดับ ตร. ให้รับรู้เหมือนกระบวนการของศาลและอัยการว่า ใครจะก้าวขึ้นไปมีตำแหน่งอะไร จึงต้องเอามาเป็นตัวอย่าง ส่วนตำรวจไม่รู้เลย ขึ้นอยู่กับเงินนำทาง”

นายจตุพร ย้ำว่า การก้าวขึ้นตำแหน่งสูงขึ้นของตำรวจไม่มีการรับรู้อย่างโปร่งใส เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความเร็ว ดังนั้น จึงควรมีมาตรฐานว่า ทุกคนแต่ละหน่วยงานต้องตรวจสอบคุณสมบัติ เพราะใน ตร.จะหาคนดีเลิศไม่มัวหมองเลยหาได้ยากมาก นอกจากจ่าเฉยและรูปปั้นหน้า ตร.เท่านั้น

อีกทั้งกล่าวว่า โดยความจริงแล้ว ตำรวจที่ไม่วิ่งเต้นจะเป็นรอง ผกก.อยู่นานเป็นสิบปี ไม่มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน ส่วนคนยุคใหม่กลับก้าวหน้าได้รวดเร็ว เพราะรู้ช่องวิ่งเต้นในด่านแรกแล้วได้ด่านสอง ส่วนตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังต้องทำหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน แล้วคนพวกนี้ก็ควานหาความยุติธรรม ไม่รู้จะทำอย่างไร จนหมดหนทาง ไม่รู้ความดีความชอบคืออะไรต้องรอจนเข้าเกณฑ์ 33% ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ปฏิรูปตำรวจแล้ว คงต้องปฎิรูปตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ช่วงรัฐบาลประยุทธ์ เป็นยุคที่มีเวลาดีที่สุดถึง 9 ปี แต่ไม่ปฏิรูปตำรวจให้เป็นชิ้นเป็นอัน ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว กรมราชภัณฑ์ กรมคุมประพฤติ ล่าหลังพอกันกับตำรวจ จึงต้องปฎิรูปอย่างเร่งด่วน

“ถ้าวางระบบได้ตามกระบวนการของศาลแล้วจะดีที่สุดที่รู้ว่าใครจะขึ้นไปถึงระดับไหนในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนตำรวจไม่มีใครรู้ จึงเกิดอาการห่อเหี่ยว หมดไฟในการทำงาน ดังนั้น จึงต้องยกระดับตำรวจให้มีรายได้อยู่ได้ และใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติ ถ้าได้ยกระดับแล้วจะมีคุณภาพขึ้น ทั้งคุณภาพชีวิต ตำรวจจะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย เพราะมีเงินสามารถยังชีพได้ในระบบ โดยในแต่ละปีตำรวจจะไม่ถูกไล่ออกจำนวนมาก”

ส่วนกรณีนายอานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวสังคมการเมือง ถูกคุมขังที่เรือนจำในข้อหา ม.112 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อยังมีกฎหมายอยู่ศาลจึงทำอย่างอื่นไม่ได้ แม้ ร.10 ไม่ประสงค์จะเอาความหรือใช้กฎหมายนี้ ซึ่งไปไกลกว่าการแก้กฎหมายเสียอีก ดังนั้น จึงหวังว่า นายอานนท์จะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลอุทธรณ์ เพื่อให้มีชีวิตอิสรภาพได้เลี้ยงดูลูกยังเล็กอยู่

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงใยที่สุดอยู่ที่คดีของเยาวชนและนักศึกษา ซึ่งมีคดีมากมายประมาณคนละ 30-50 คดี เมื่อนับโทษต่อเนื่องแล้วจะติดคุกมากกว่าโทษประหารชีวิต จึงขอรัฐบาลคิดอ่านชำระสะสาง โดยเต้องเร่งรีบออก พรก.นิรโทษกรรมให้คดีการเมืองและ ม.112 เพื่อไม่เป็นภาระกับพระเจ้าแผ่นดิน และเกิดการเข้าใจอันดีขึ้นในสังคมโดยเร็ว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'นปพ.ยะลา\'รับคนไลฟ์ชายโดด รพ. เป็นตำรวจในสังกัด สั่งตั้ง กก.สอบแล้ว หากผิดจริงฟันวินัย-อาญา 'นปพ.ยะลา'รับคนไลฟ์ชายโดด รพ. เป็นตำรวจในสังกัด สั่งตั้ง กก.สอบแล้ว หากผิดจริงฟันวินัย-อาญา
  • ตำรวจไซเบอร์จับซ้ำ เว็บซื้อขายบริการทางเพศรายใหญ่ ตำรวจไซเบอร์จับซ้ำ เว็บซื้อขายบริการทางเพศรายใหญ่
  • ผบ.ตร.สั่งสอบด่วน! ตร.พาผู้ต้องหา ช่วย ‘อดีต พล.ต.อ.’ ลอกข้อสอบหนีออกจากโรงพัก ผบ.ตร.สั่งสอบด่วน! ตร.พาผู้ต้องหา ช่วย ‘อดีต พล.ต.อ.’ ลอกข้อสอบหนีออกจากโรงพัก
  • ‘สภ.รัตนาธิเบศร์’อ่วม! งานหนักคนน้อย เครียดซึมเศร้า ‘ผบช.ภ.1’รุดช่วย-ชงตร.เพิ่ม ‘สภ.รัตนาธิเบศร์’อ่วม! งานหนักคนน้อย เครียดซึมเศร้า ‘ผบช.ภ.1’รุดช่วย-ชงตร.เพิ่ม
  • ส่งร่างตำรวจ‘เครื่องบินตก’สู่ภูมิลำเนา ตร.พร้อมดูแลพิธีอย่างสมเกียรติ ส่งร่างตำรวจ‘เครื่องบินตก’สู่ภูมิลำเนา ตร.พร้อมดูแลพิธีอย่างสมเกียรติ
  • DSI ยึดเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท DSI ยึดเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท
  •  

Breaking News

สอยคิวลุ้น! บรรจุแข่งโอลิมปิกเกมส์

ครั้งประวัติศาสตร์!อังกฤษลุยถ้วยใหญ่ยุโรป6ทีม

‘ปธ.กมธ.กิจการสภาฯ’โร่แจงสร้าง'โรงหนัง4D'ต้องการฉายประวัติศาสตร์การเมืองให้ปชช.

หยุดยาว นทท.ไทยทะลัก! ‘ลงเกาะหมาก-กูด’ ที่พักเต็มแน่นทุกห้องเกิน 5 พันคน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved