เจอแล้ว‘เด็ก 14’ถูกชายเก็บของเก่าลักพาตัว พบประวัติผู้ต้องหาก่อมาแล้ว 2 คดี
ความคืบหน้ากรณีมูลนิธิกระจกเงา ออกประกาศตามหา “เด็กชายมัว” อายุ 14 ปี ที่หายออกจากบริเวณวัดแห่งหนึ่งใน ต.ชีนํ้าร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกนายพัน หรือบอย อายุ 40-50 ปี อาชีพเก็บของเก่าขายในตัวเมืองสิงห์บุรี ลักพาตัวไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ก.ย.66 พ.ต.ท.พิพัฒน์ จ่างแก้ว รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากนายวรฉัตร นิยมสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.ประจันตคาม ว่านายปิยะพงษ์ หรือนายพัน หรือบอย ผู้ก่อเหตุลักพาตัว “เด็กชายมัว” แจ้งว่าจะขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังรับแจ้ง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เดินทางไปที่บ้านแม่ของนายพัน เพื่อรับตัวนายพันและเด็กชายมัว ที่หมู่บ้านเกาะกระต่าย หมู่ 6 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายพัน พบเด็กชายมัวและนายพัน อยู่ที่บริเวณบ้าน จึงได้นำตัวเด็กชายมัวและนายพัน มาที่ สภ.ประจันตคาม เพื่อทำการสอบสวน โดยเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ต่อสายโทรศัพท์หาแม่ของเด็กชายมัว ซึ่งเด็กชายมัวก็ร้องไห้และคุยกับแม่เป็นภาษาพื้นเมือง (ม้ง)
เบื้องต้น “เด็กชายมัว” ระบุว่า ถูกนายพันลักพาตัวมาจากวัดที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยล่อลวงว่าจะพาไปซื้อโทรศัพท์ แล้วก็พาขึ้นรถซาเล้ง เดินทางผ่านจังหวัดต่างๆ และกลับมาที่ภูมิลำเนาของนายพัน ใน อ.ประจันตคาม จนถึงวันที่ 28 ก.ย.66 โดยตนไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย มีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว ที่ผ่านมาก็อยู่อย่างอดอยาก
“เด็กชายมัว” เล่าให้ฟังว่า นายพันได้ขับรถซาเล้งพาตนมาจาก จ.สิงห์บุรี และมาอยู่ที่นี่ อยู่ตามป่าหาหน่อไม้กิน นายพันหลอกว่าจะพาไปซื้อโทรศัพท์ ระหว่างทางก็ซื้อของให้กิน ก็มีข่มขู่บ้าง วันนี้ดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยไว้ทัน ตนกินอดๆอยากๆตลอดเวลา 12-14 วัน
ขณะที่นายพัน กล่าวว่า เคยก่อคดีที่กบินทร์บุรี ข้อหาพรากผู้เยาว์และทำอนาจาร เมื่อปี 2557 จากนั้นก็หลบหนีไปเรื่อย ส่วนคดีที่ 2 ที่ประจันตคาม ก็คดีพรากผู้เยาว์ เมื่อปี 2559 ครั้งที่ 3 ก็ครั้งนี้ หลังสุดที่เอาซาเล้งไปขายก็มา จ.สระบุรี และเช่าโรงแรมนอน 2 คืน หลังจากนั้นก็นั่งรถมา จ.นครนายก และขายโทรศัพท์ ซื้อเสื้อผ้าให้เด็ก และพาเข้ากบินทร์บุรี เดินตลาดนัด มาอยู่ประจันตคาม 5 วัน และเคยทำเด็กไปครั้งเดียวตบตีเด็ก 2 ครั้ง ตอนนี้อยากบอกว่าขอโทษพ่อแม่เด็กในสิ่งที่ได้ทำลงไป และยอมรับผิด
ต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมตัวที่ สภ.ประจันตคาม เพื่อรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อินทร์บุรี เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาและน้องมัว
ด้านนายวรฉัตร นิยมสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 กล่าวว่า ทางญาติติดต่อมาว่านายพัน จะขอมอบตัว ทางบ้านไม่อยากให้คนอื่นมองทางบ้านว่าไม่ดี ไม่อยากให้ที่พักพิง ทางญาติเจอตัวก็ติดต่อตนให้ไปรับตัวนายพัน มามอบตัว ตั้งแต่เป็นข่าวมาก็เห็นข่าวก็พยายามเข้าไปดู แต่ก็ไม่พบ สภาพแวดล้อมก็เป็นป่าทั้งหมด ติดต่อไม่ได้ เพราะนายพัน ออกจากหมู่บ้านนี้ไปนานหลายปีแล้ว วันนี้เจอตัวเด็ก แต่ไม่เจอนายพัน เด็กก็ร้องไห้ เสียใจ เห็นว่ามีถูกทำร้ายร่างกาย น้องมัวมีอาการหวาดกลัว เบื้องต้นน้องมัวพูดว่าถูกทำร้าย เขาทำร้าย ส่วนนายพันไม่ได้อยู่ที่นี่หลายปีแล้ว ตั้งแต่ปีที่มีคดีล่าสุดปี 2560 แล้วก็หายไปเลย เขาก็มีคดีทำนองเดียวกัน คือ ล่อลวงเด็กผู้ชายไปทำอนาจาร แต่ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี