‘แพร่’เจอวิกฤต
น้ำยมทะลัก/รถด่วนตกราง
‘เศรษฐา’สั่งเร่งช่วยชาวบ้าน
จังหวัดแพร่ ได้รับผลกระทบจากฝนถล่ม-น้ำป่าทะลักหลากท่วมหลายพื้นที่ บ้าน-รถ-ถนนจมทางรถไฟขาด ม้าเหล็กด่วนพิเศษตกรางพลิกตะแคงเกือบทั้งขบวน ทำเส้นทางสายเหนือชะงัก เจ้าหน้าที่เร่งกู้-แจ้งเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ พ่อเมืองแพร่ เผยสถานการณ์อุทกภัย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.แพร่ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมหลายพื้นที่ เช่น อ.เด่นชัย อ.ลอง อ.สูงเม่น และ อ.เมืองแพร่ ทำให้บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังส่งผลทำให้การจราจรติดขัด รถไม่สามารถขับผ่านสัญจรได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงกั้นจราจรมาปิดเส้นทางเอาไว้ เนื่องจากมีรถหลายคันที่ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองแพร่ ล่าสุดระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นางสุทินี ขาวดี อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เปิดเผยว่า ปีนี้น้ำมาเร็ว น้ำป่าไหลมาจากหลายที่ ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ขนข้าวของเครื่องใช้หนีขึ้นที่สูงไม่ทัน ปกติทุกปีน้ำจะท่วมด้านนอก แต่ปีนี้น้ำเข้ามาภายในบ้านเลย หนักกว่าทุกปีที่เจอ นอกจากนี้ยังมีฝนตกลงมาตลอดอีก
นายประจักร์ จินดาจำรูญ นายอำเภอเด่นชัย กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุด น้ำเริ่มท่วมในพื้นที่บ้านห้วยกูด และกำลังจะมีมวลน้ำจากลำห้วยแม่พวกไหลมาสมทบอีก ซึ่งทางอำเภอได้แจ้งเตือนชาวบ้านไปแล้ว ซึ่งน้ำท่วมปีนี้ถือว่าหนักกว่าปีที่ผ่านมา
รถไฟด่วนพิเศษตกราง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ล่าสุด เมื่อเวลา 05.48 น. วันที่ 30 กันยายน เพจรถไฟไทย แจ้งเหตุด่วนว่า รถไฟขบวน 13 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ขณะทำขบวนถึง สทล.557/7-8 ระหว่างแก่งหลวง-บ้านปิน เกิดอุบัติเหตุตกรางพลิกตะแคง กีดขวางการเดินรถ เนื่องจากสาเหตุน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ทางขาดยาว 20 เมตร ส่งผลทำให้ พขร. ชค. เจ้าหน้าที่รถไฟ ผู้โดยสาร ข.13 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ จะเร่งทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และจะมีการเปลี่ยนแผนการเดินรถ ดังนี้ 1. ขบวน 13 ใช้ดีเซลของขบวน 112 ลากจูงรถพ่วง ขบวน 13 ที่ไม่ตกรางกลับเด่นชัย จากนั้นขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ จากเด่นชัย-เชียงใหม่ 2. ขบวน 51 ขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ จากเด่นชัย-เชียงใหม่ 3. ขบวน 102 งดเดินจากเชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ 4. ขบวน 8 งดเดินจากเชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
แพร่กระทบ5อำเภอ837ครัวเรือน
เวลา 14.00 น. นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ รายงานสถานการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแพร่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร สถานการณ์ปัจจุบัน ฝนหยุดตกแล้ว บางพื้นที่น้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีเพียงบางพื้นที่ปริมาณน้ำยังทรงตัว ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งน้ำอ่างและน้ำท่า เฝ้าระวังและขนย้ายขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันหากเกิดสถานการณ์เพิ่มเติม ทั้งนี้ พื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อ.เมืองแพร่ อ.เด่นชัย อ.ลอง และ อ.วังชิ้น รวมจำนวน 5 อำเภอ 40 ตำบล 198 หมู่บ้าน 837 ครัวเรือน โดยทางจังหวัดได้ออกประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
แม่ฮ่องสอนเสาไฟฟ้าหัก-ดินสไลด์
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง หมวดการทางแม่สะเรียง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแม่สะเรียง กู้ชีพกู้ภัยแม่สะเรียง กู้ภัย อบต.แม่เหาะ ผู้ใหญ่บ้านแม่เหาะและชาวบ้านแม่เหาะ ช่วยกันตัดกิ่งไม้ เอาสิ่งกีดขวางออกจากเส้นทางสัญจร หลังเกิดเหตุต้นไม้เสาไฟฟ้าหักโค่นเกือบทับใส่รถกระบะสีขาวที่วิ่งผ่านมา เดชะบุญคนในรถ 3 คน ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี ดินสไลด์ปิดทับเส้นทางบริเวณ ถนนหลวงสาย 108 แม่สะเรียง-แม่เหาะ หลักกิโลเมตรที่ 177 ส่งผลทำให้รถติดยาว โดยเจ้าหน้าที่เร่งเปิดเส้นทางให้รถสัญจรให้เพียง 1 ช่องทางก่อน เพื่อระบายรถที่ติดยาว และปิดถนนอีกครั้งในช่วงที่ 2 เพื่อทำการเคลื่อนย้ายเสาไฟที่หักโค่น ออกจากเส้นทางสัญจร ซึ่งใช้เวลารวมกว่า 4 ชม. เพราะมีทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หักโค่น เสาไฟฟ้า และ ดินสไลด์ทำให้ต้องใช้เวลาในการเปิดเส้นทาง
ในส่วนของพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย ได้มีฝนตกหนัก เช่นกัน ทำให้น้ำในลำห้วยแม่ลาน้อย ไหลหลากเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว กัดเซาะจนทำให้บริเวณคอสะพานชำรุด 2 แห่ง ประกอบด้วย สะพานข้ามน้ำลา ม.1 บ้านแม่ลาน้อย และ สะพานข้ามน้ำลา ม.2 บ้านทุ่งสารภี เสียหาย ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
เร่งช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อน
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน/ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง /กรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชิญสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้กับราษฏรผู้ประสบเหตุวาตภัย จำนวน 12 ครัวเรือน ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง จำนวน 7 ครัวเรือน และ องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านกาศ จำนวน 5 ครัวเรือน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดเหตุวาตภัย พายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ทำให้บ้านเรือนราษฎรถูกต้นไม้ล้มทับได้รับความเสียหายในพื้นที่ ต.แม่คงและ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
‘เศรษฐา’กำชับเตรียมพร้อมรับมือ
วันเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Thavisin ว่า หลังจากตนได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดแพร่ได้สั่งการให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์โดยเร่งด่วน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพราะคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังอีกประมาณ 1-2 วัน
นายเศรษฐา ระบุอีกว่า ขณะนี้น้ำกำลังถูกระบายไปตามแม่น้ำยม ซึ่งอาจเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในจ.สุโขทัยและ จ.พิษณุโลก ซึ่งทางกรมชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำไปทางแม่น้ำน่าน เพื่อลดผลกระทบ ขณะที่ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัยและพิษณุโลก เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ สำคัญที่สุดคือต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน
“ผมขอให้พี่น้องในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือด้วยนะครับ โดยเก็บข้าวของขึ้นที่สูงก่อน และหากขาดเหลืออะไรสามารถประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การช่วยเหลือได้ทันที เราทุกคนจะทำงานเต็มที่เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัย” นายเศรษฐา ระบุ
“สุทิน”ตรวจเยี่ยมพื้นที่อีสานตอนบน
นายสุทินคลังแสง รมว.กลาโหม เดินทางไปตรวจเยี่ยมทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.เพ็ญ และ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี โดยเข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 2 และศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบก ที่ 24
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองร้อย บรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 และ ชุดช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย กองบิน 23 ซึ่งได้จัดรถครัวสนามแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชน รวมถึงได้พบปะรับฟังปัญหาและมอบถุงยังชีพให้กับ ผู้แทนในพื้นที่ จากนั้นได้เดินทางไปยังสะพานลาน้าปาว บริเวณตลาดโอทอป เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กาลังใจ ผู้ประสบอุทกภัย
สั่งพร้อมช่วยเหลือประชาชน
รวมถึงได้สั่งการให้หน่วยแพทย์ทหารและกาลังพลเร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนในขั้นต้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่น้ำท่วมขัง พื้นที่ริมแม่น้ำสายหลัก และพื้นที่ฝนสะสมต่อเนื่อง ซึ่งอาจเสี่ยงกับดินโคลนถล่ม น้ำท่วมเฉียบพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ รมว.กลาโหม กำชับให้หน่วยในพื้นที่จัดกาลังพล ยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือช่างที่จำเป็นเข้าช่วยเหลือประชาชน โดยเสริมแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ต่ำและพื้นที่เขตเมืองจากมวลน้ำขนาดใหญ่ เตรียมการอพยพ จัดรถครัวสนามและ ยานพาหนะอำนวยความสะดวก ไปจนถึงสนับสนุนการฟื้นฟูภายหลังน้ำท่วมจนกว่าสถานการณ์จะปกติ ทั้งนี้ให้ยึดแผนบรรเทาสาธารณภัย กห.2564 และแผนบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยเป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติ และรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
“สมศักดิ์”เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย-แพร่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐาได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย โดยในวันที่ 1 ตุลาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เพื่อติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม และเส้นทางรถไฟเสียที่หายจากสาเหตุน้ำป่าไหลหลาก โดยนายสมศักดิ์จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจ จุดที่ 1 โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย จุดที่ 2 สถานีรถไฟบ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์และเข้าพื้นที่จุดที่เกิดอุบัติเหตุ จุดที่3 ตรวจเยี่ยมและมอบของบรรเทาภัย ให้กับชาวบ้าน บริเวณน้ำท่วม บ้านปง ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง จ.สุโขทัย ตรวจเยี่ยมใน จุดที่ 4 บริเวณที่ว่าการอำเภอสวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อร่วมประชุมร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม
กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักหลายพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้มีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
ปลัดมท.สั่งสำรวจความเสียหาย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศขณะนี้ ส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายการสิ้นสุดฤดูฝนในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2566 และการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อกิจการอื่น ๆ ของพี่น้องประชาชน
“ตนได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแจ้งอำเภอรายงานสถานการณ์พื้นที่เกิดอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ดินโคลนถล่ม ทั้งข้อมูลและภาพถ่ายในพื้นที่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการเผชิญเหตุ ข้อมูลขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือในระหว่างเกิดเหตุ และข้อมูลขั้นตอนการเข้าฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ อย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการดำเนินงานในทุกขั้นตอน ผ่านระบบ MOI WARROOM รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เสี่ยงในการเกิดภัยแล้งจากพื้นที่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จากข้อมูลผังภูมิสังคม และจากข้อมูลพื้นที่ประกาศภัยแล้งซ้ำซากของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ร่วมกันจัดทำและเสนอแผนปฏิบัติการเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำ/เสนอแผนปฏิบัติการ ขั้นตอนการเตรียมการเผชิญเหตุ ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือในระหว่างเกิดเหตุ และข้อมูลขั้นตอนการเข้าฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ อย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการดำเนินงานในทุกขั้นตอน ภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2566” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การสำรวจและรายงานข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยมีข้อมูลในการบริหารจัดการและสามารถให้การแก้ไขปัญหาทันต่อสถานการณ์อุทกภัยและเตรียมรับมือภัยแล้งที่จะมาถึง ซึ่งจะส่งผลต่อสภาวะภูมิอากาศ ก่อให้เกิดการคาดการณ์ภัยแล้งขึ้นในประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี