ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ศักดิ์ จิตรใจภักดิ์ อายุ 51 ปี เกษตรกรหมู่ที่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง หันมาใช้พื้นที่ว่างข้างบ้านเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เพาะเลี้ยงปลากัดไทยสายกัดและพันธุ์ลูกผสมเกือบ 200 บ่อ โดยมีพร้อมจำหน่ายประมาณ 40-50 บ่อ บ่อละกว่า 200 ตัวหรือมากกว่า 10,000 ตัว ราคาขายตั้งแต่ตัวละ 100-1,500 บาท ขึ้นอยู่กับสีสันและรูปร่างของปลา โดยเพาะเลี้ยงปลากัดมาแล้วกว่า 20 ปี ทำให้เกิดความชำนาญในการคัดเลือกปลาที่จะนำมาทำพ่อแม่พันธุ์ เพื่อให้ได้ปลากัดสายกัดที่แข็งแรง ทนทาน ดุสู้ฟัดและชนะเกือบทุกสนามกัดปลา แถมมีรูปร่างที่สง่างามสีสันสดใส จนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ทำให้ในแต่ละสัปดาห์จะมีพ่อค้าปลาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ สั่งซื้อปลากัดสายกัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องและยังมีขายทางออนไลน์ จนมีลูกค้าจากต่างประเทศติดต่อสั่งซื้อเข้ามา เช่น จากประเทศเวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซียและอินโดนีเซีย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อสัปดาห์ และยังมีปลากัดลูกผสมที่เพาะเลี้ยงเอง จนได้สายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมาอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังปลากัดสวยงามตระกูลมัลติคัลเลอร์ นีโม่คอปเตอร์ เยลโล่คอปและสายพันธุ์อื่นๆ พร้อมจำหน่ายอีกกว่า 5,000 ตัวเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่จะซื้อไปเลี้ยงเพื่อเป็นปลาสวยงามในตู้ปลา เน้นราคาจับต้องได้ตัวละ 100-300 บาท ซึ่งเป็นรายได้นอกเหนือไปจากปลากัดสายกัดอีกทางหนึ่งด้วย ทำให้ปีที่ผ่านมาปลากัดขายดีจนหมดเกลี้ยงบ่อ และต้องใช้เวลาเพาะเลี้ยงใหม่ โดยเริ่มขายรอบใหม่เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา

สำหรับปลากัดแต่ละชนิดต้องใช้เวลาเลี้ยงนาน 7-8 เดือนหรือขนาดความยาว 3-4 เซนติเมตร จึงนำออกจำหน่าย ซึ่งเกษตรกรได้เพาะไรแดงขึ้นเอง เพื่อให้เป็นอาหารปลา ส่วนหนึ่งขายให้กับลูกค้าราคากิโลกรัมละ 200 บาทสร้างรายได้อีกทาง