สาวขับจยย.จะไปฟอกไตที่รพ.ถูกรถบรรทุกขยะชนแล้วหลบหนีคดีไม่คืบวงจรปิดจับภาพได้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่  13 ตุลาคม 2566 น.ส.ปราณี อินทร์เลิศอายุ 54 ปี พักอาศัยอยู่หมู่ 6 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ร้องสื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา น.ส.ลินดา อินทร์เลิศ อายุ 54 ปี น้องสาวขับ จยย.จะไปฟอกไตที่โรงพยาบาลถูกรถบรรทุกขยะชนแล้วหลบหนี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เหตุเกิดบริเวณถนนลำลูกกาซอยที่ 10 เส้นทางมุ่งหน้าปากทางลำลูกกาขาเข้ากรุงเทพฯหมู่ 10 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับโพสต์ facebook    โดยใช้ชื่อว่า แหม่มประกัน และข้อความพร้อมคลิปวีดีโอลงในสื่อสังคมออนไลน์กลุ่มเพจชาวลำลูกกาด้วย

โดยน.ส.ปราณี เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นน้องสาวของตนเอง ขับรถจักรยานยนต์จะไปฟอกไตที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตห ลังจากที่เกิดเหตุน้องสาวได้โทรมาเมื่อเวลาตี 5.32 น้องเล่าว่าได้ขับจยย.ตามปกติ ถูกรถชน ตัวเองได้มาที่เกิดเหตุและได้พาน้องไปที่โรงพยาบาล วันต่อมาก็ได้ขอกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุซึ่งในกล้องวงจรปิดนั้นมีรถคันใหญ่ได้มาชนท้ายรถน้องที่ขับจนได้รับบาดเจ็บแขนขวาและขาขวา เลือดเต็มแขนและขา เพราะในช่วงที่เกิดเหตุนั้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือ หลังจากที่น้องได้โทร.มาตัวเองก็เลยรีบมาที่เกิดเหตุทันทีเลย คนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาได้เข้ามาช่วยเหลือก่อนที่ตนเองจะมาถึง

น.ส.ปราณี กล่าวว่า หลังจากนั้นก็มาขอดูกล้องวงจรปิดจึงได้รู้ว่ามีรถชนแล้วหลบหนี ซึ่งไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด วันเวลาผ่านไปสอบถามความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดเลย แต่ก็ได้ถามกับรองผู้กำกับ ก็รับเรื่องไว้ ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเลย ซึ่งตอนนี้คนเจ็บยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่ผ่าตัดรอบที่ 3 แล้ว อาการเขาหนักมาก ฝากถึงคนที่ขับรถชนขอความกรุณาจอดรถช่วยดูคนเจ็บหน่อยไม่ใช่ขับหนีไปเลย ผ่านมาหลายวันก็เลยตัดสินใจลงในเพจและก็ร้องสื่อ

ต่อมานางสาวปราณีได้พาผู้สื่อข่าวไปที่จุดที่เกิดเหตุ  เล่าว่า น้องขับออกมาจากบ้านที่พักอาศัยอยู่ซอยลำลูกกา 11ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากขับมาตามปกติ และก็ถูกรถชนกระเด็นใกล้หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งสันนิษฐานว่ารถที่ชนนั้นคล้ายรถขนขยะซึ่งไม่ทราบว่าเป็นรถของหน่วยงานใด เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต อ.กิตติ ใจหาญรองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต พื้นที่รับผิดชอบเร่งรัดติดตามหาเบาะแสเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป