‘สืบทองผาภูมิ-ตำรวจทางหลวง’ตามตะครุบ‘ไอ้แม็ค’พม่าโหด แทงอกเพื่อนสนิทชาติเดียวกันดับสยองคากระต๊อบกลางไร่มัน อ้างคนตายด่าแม่ว่าทิ้งลูกได้ลงคอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทองผาภูมิ นำโดย พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ , พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ , ว่าที่ พ.ต.ต.วีระชัย เกษเกษม สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 135 จับกุมตัวนายนันอู หรือแม็ค ชาวเมียนมา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ (จยย.) พ่วงข้างที่ใช้เป็นพาหนะหลบหนี , โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่บริเวณจุดพักรถ ถนนสาย 323 ทองผาภูมิ-กาญจนบุรี หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.มนตรี เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 14 ต.ค.66 ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพนายจอ ชาวเมียนมา อายุประมาณ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในกระต๊อบกลางไร่มันสำปะหลัง หมู่ 1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ หลังจากได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ , แพทย์เวร รพ.ทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่มูลนิกู้ภัยกาญจนบุรี เดินทางไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบศพนายจอ ถูกของมีคมแทงเข้าที่หน้าอก 1 แผล เจ้าหน้าที่พบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน หลังชันสูตรศพเบื้องต้นแล้วเสร็จ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำร่างของนายจอ ไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี
จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือนายนันอู หรือแม็ค เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นอยู่กับนายจอ ที่กระต๊อบเป็นคนสุดท้าย อีกทั้งโทรศัพท์มือถือของนายจอหายไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยติดตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมุ่งหน้าไปในทิศทางใด จึงประสานพ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.เพื่อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับอีกทางหนึ่ง จนกระทั่งพบนายนันอู พร้อมรถจักรยานยนต์พ่วงข้างอยู่ที่ศาลาพักรถ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจับกุมตัวเอาไว้ พร้อมกับนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ทองผาภูมิ
นายนันอู รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายนายจอ จนเสียชีวิตจริง ก่อนเกิดเหตุวันที่ 13 ต.ค.66 เวลา 16.30 น. ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปหานายจอ ที่เป็นเพื่อนกันที่บ้านพักในสวนยางพาราติดถนนก่อนถึงวัดปรังกาสี แต่พบเพียงพ่อของนายจออยู่ที่บ้าน จากนั้นพ่อของนายจอ ให้ตนไปรับลูกชายที่อยู่ไร่มันสำปะหลัง หมู่ 1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ ขณะกำลังเดินทางตนไปพบนายจอ อยู่ที่ร้านขายของชำ จึงแวะรับแล้วเดินทางไปที่ไร่มันสำปะหลังเพื่อเก็บข้าวของของนายจอ เพื่อนำกลับบ้านพัก โดยนายจอได้ซื้อเหล้าดื่มกินระหว่างทางจนมีอาการมึนเมา และระหว่างทางที่พูดคุยกันนายจอได้พูดบ่นต่อว่าด่าทอแม่ของตนตลอดทางว่าแม่ของตนทิ้งลูกไปได้อย่างไร ทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายนันอู กล่าวว่า ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปเรื่อยๆจนกระทั่งก่อนถึงไร่มันสำปะหลัง ปรากฏว่าฝนได้ตกลงมาอย่างหนักทำให้ถนนลื่น จนโซ่รถจักรยานยนต์หลุดไม่สามารถขับต่อไปได้ ตนจึงจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ข้างทางริมสวนยางพารา จากนั้นตนกับนายจอ ได้เดินเท้าไปที่ไร่มันสำปะหลังที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เมื่อไปถึงที่พักฝนได้ตกลงมาอย่างหนักทำให้ไม่สามารถเดินกลับออกมาได้ ตนกับนายจอจึงตัดสินใจทำกับข้าวกินและนอนพักที่กระต๊อบหลังดังกล่าว ระหว่างนั้นนายจอ ได้ดื่มเหล้าเข้าไปจนมึนเมาและยังได้พูดจาต่อว่าแม่ของตนว่าทิ้งลูกอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ตนกับนายจอจึงนอนพักผ่อนในมุ้งหลังเดียวกัน
ระหว่างนั้นตนได้โทรศัพท์ไปหาน้องชายที่อยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของแม่ว่าแม่อยู่สบายดีหรือไม่ เมื่อนายจอเพื่อนของตนที่นอนอยู่ด้วยกันได้ยิน จึงเอ่ยถามตนว่าทำไมไม่ไปอยู่กับแม่ ตนจึงตอบไปว่าไปไม่ได้เพราะไม่มีบัตรประจำตัว จากนั้นนายจอได้พูดย้ำว่าแม่ของตนทิ้งลูกอีกหลายครั้ง ทำให้ตนเกิดความโมโหคว้าเอาอาวุธมีดทำครัวจ้วงแทงเข้าที่หน้าออกของนายจออย่างแรงไป 1 ครั้ง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา ส่วนตนสามารถสะบัดตัวหลุดแล้วกระโดดลงจากกระต๊อบแล้ววิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเอาไว้ โดยได้หยิบเอาโทรศัพท์ของนายจอไปด้วย รอจนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.ของวันที่ 14 ต.ค.66 ตนจึงซ่อมโซ่รถแล้วขับหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี