18 ตุลาคม 2566 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ปกติพ่อแม่จะทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่สมุทรปราการ โดยทิ้งให้น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 อยู่กับปู่และย่า ที่กาญจนบุรี
กระทั่งวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา แม่แทบช็อก ย่าโทรมาบอกว่า วันที่ 30 กันยายน ลูกสาวถูก 2 คนร้าย คนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานพ่อในหมู่บ้านชื่อ นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี เพิ่งออกจากคุกในคดีข่มขืนได้ไม่นาน ส่วนอีกคนไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะสวมหมวกไอ้โม่งตลอดเวลา
โดยชายสวมหมวกไอ้โม่งอ้างว่าเป็นตำรวจ ใช้ปืนจ่อหัวลูกสาวก่อนพาไปในห้างนาบริเวณทุ่งนาที่เปลี่ยวมืดผลัดกันข่มขืน จากนั้นได้พามาส่งบ้านและขู่จะยิงทิ้งถ้าเอาเรื่องไปบอกใคร หลังทราบเรื่องแม่รีบเดินทางไปกาญจนบุรี พาลูกเข้าแจ้งความในวันที่ 6 ตุลาคมทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และนัดสอบสหวิชาชีพ ในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม่กล่าวอีกว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า คืนวันที่ 30 กันยายน มีงานแข่งวัวลานใกล้บ้านได้ขออนุญาตย่าแล้ว แต่ย่าไม่ให้ไป จึงได้แอบนัดนายเอก คนในหมู่บ้านที่รู้จักกันในกลุ่มเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์มารับตอน 21.30 น. เพื่อนไปเจอเพื่อนชายอีกคนที่นัดไว้
จากนั้นนายเอกได้โชว์ปืน 1 กระบอกให้ดู และอ้างว่าจะมีคนเอาสร้อยมาจำนำต้องไปเอาก่อน และนายเอกก็พาขี่รถไปบริเวณที่เปลี่ยวทางไปทุ่งนาใกล้คลองชลประทาน ก่อนทำทีเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่บนถนนให้ลูกสาวลงจากรถไปเก็บ จังหวะนั้นจู่ๆ ก็มีชายสวมหมวกไอ้โม่งกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เอาปืนมาจี้หัวลูกสาวพร้อมข่มขู่ห้ามส่งเสียงร้อง มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ส่วนนายเอกก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังขี่รถให้ลูกนั่งตรงกลางและชายสวมไอ้โม่งก็นั่งซ้อนสามกันไป
ลูกสาวกลัวมากคิดว่าตัวเองจะไม่รอดชีวิตและไม่ได้กลับมาหาพ่อแม่แล้ว จึงได้ยกมือไหว้ชายสวมไอ้โม่ง และขอร้องให้นายเอกช่วย แต่นายเอกกลับพาไปที่ห้างนาก่อนจะร่วมกับชายสวมไอ้โม่ง สลับกันข่มขืนลูกสาวและถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไว้ด้วย หลังคืนเกิดเหตุลูกสาวกลับมาบ้านก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เครียดมากเพราะรู้สึกผิดที่หนีออกไปตอนกลางคืน จนเกิดเรื่องเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง จนมีอาการซึมเศร้าไม่รู้จะทำอย่างไร ผ่านไป 5 วัน เพื่อนๆ ของลูกที่รู้เรื่องได้พากันมาบอกย่า ลูกจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ย่าฟัง ก่อนจะมาบอกแม่ให้พาเข้าแจ้งความ ตอนนี้ลูกสาวสภาพจิตใจย่ำแย่มากเพราะกลัวว่าคลิปจะถูกเผยแพร่ แม่ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน สอบสหวิชาชีพ น.ส.เอ ในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 2 คนร้าย ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ ขณะที่แม่และเด็กหวาดผวาเกรงว่าจะได้รับอันตรายเพราะคนร้ายมีปืนและไม่รู้ว่าไอ้โม่งเป็นใครจึงขอมูลนิธิปวีณาฯให้ความปลอดภัยด้วย
โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีกับ พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน อย่างใกล้ชิด หากจับคนร้ายได้ตำรวจก็จะคัดค้านการประกันตัว ขณะที่แม่เด็กอยากให้ลูกย้ายโรงเรียนมาอยู่ด้วยที่สมุทรปราการ ทางมูลนิธิปวีณาฯจะประสานกระทรวงศึกษาให้ ซึ่งระหว่างนี้แม่และเด็กจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนกว่าจะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาต่อไป.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี