วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘เอลนีโญ’พลังบวก‘ผันนํ้ายวม’เติมเขื่อนภูมิพล

‘เอลนีโญ’พลังบวก‘ผันนํ้ายวม’เติมเขื่อนภูมิพล

วันจันทร์ ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : เขื่อนภูมิพล เอลนีโญ
  •  

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)” หรือ “ภาวะโลกร้อน” ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินไหวดินถล่ม และภัยธรรมชาติอื่นๆ ที่รุนแรงและถี่ขึ้น พื้นที่ที่ไม่เคยประสบภัยก็ประสบภัยทางธรรมชาติ เช่น หายนะที่เกิดจากน้ำท่วมประเทศลิเบีย ภัยแล้งคุกคามยุโรปแม่น้ำไรน์ตื้นเขินจนถึงจุดวิกฤต

ธารน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์และธารน้ำแข็งอีกหลายแห่งละลายตัวและหดสั้นลง แผ่นดินไหวรุนแรงที่ตุรกีและซีเรีย ผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 รายไฟไหม้ป่าที่มลรัฐฮาวาย น้ำท่วมนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ภัยแล้งรุนแรงในทวีปอเมริกาใต้ เป็นต้น ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ (El Nino)” ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่มีผลมาจากภาวะโลกร้อนเช่นกัน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ทั้งที่ในปี 2565ที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ “ลานีญา (La Nina)” ฝนตกมากกว่าค่าปกติ เรียกว่า เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็ว


ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่า ฝนจะไม่ตกในฤดูฝน ฝนก็ตกปกติ เนื่องจากประเทศไทยภูมิประเทศตั้งอยู่ในเขตมรสุม ทำให้ในบางพื้นที่ฝนตกหนักเกิดภาวะน้ำท่วมด้วยซ้ำ ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักไว้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีปริมาณน้ำต้นทุนรับมือฤดูแล้งปี 2566/67 และสภาวะเอลนีโญที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้น เมื่อพิจารณาเฉพาะ “ลุ่มเจ้าพระยา” ซึ่งเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศแล้ว

ปริมาณน้ำต้นทุนของเขื่อนหลักขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่า หลังสิ้นสุดฤดูฝน ณ วันที่1 พ.ย. 2566 จะมีปริมาณน้ำที่ใช้การได้รวมกันประมาณ 9,673 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 53 ของปริมาณน้ำที่ใช้การได้ในขณะที่ในช่วงเดียวกันของปี 2565มีปริมาณน้ำที่ใช้การได้ถึง 14,074 ล้าน ลบ.ม.ดังนัั้นคาดว่าในปีนี้ปริมาณน้ำต้นทุนที่ใช้การได้ในลุ่มเจ้าพระยา อาจจะน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 4,391 ล้าน ลบ.ม. หรือหายไปเกือบ 1 ใน 3

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยได้วางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างปราณีตครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อลดผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนักในช่วงปลายฤดูฝนควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว งดปลูกนาปีต่อเนื่องพร้อมทั้งให้กักเก็บน้ำในแหล่งเก็บน้ำของตนเองให้ได้มากที่สุด และรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด

“กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำสอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักของลุ่มเจ้าพระยาทั้ง 4 แห่งดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างยั่งยืน ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่จะเพียงพอสำหรับการอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ ไม้ยืนต้นและพืชที่ใช้น้ำน้อย ตลอดช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 อย่างแน่นอน” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

ปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุนของลุ่มเจ้าพระยา และในอนาคตเชื่อว่าจะต้องเกิดขึ้นและรุนแรงกว่านี้อย่างแน่นอน ผนวกกับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปริมาณน้ำต้นทุนมีจำนวนจำกัด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งหาแนวแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำให้กับลุ่มเจ้าพระยา ดังที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ รศ.ดร.เสรีศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัย พิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยกล่าวไว้ว่า

“...อนาคตข้างหน้าแล้งหนักแน่ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญต่างบอกว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว มันเร็วกว่านั้น อัตราเร่งมันใกล้ตัวมากขึ้น อนาคตหนีไม่พ้นเรื่องแล้ง อย่าไปบอกว่าจะไม่เจอ เพราะมันมีแน่ๆ คำถามคือจะแก้ปัญหายังไงมันมีความจำเป็นที่เราต้องปรับตัว และเรื่องของน้ำยวมก็เป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อการนี้...”

ที่ผ่านมา กรมชลประทานดำเนินการมาตรการต่างๆ ที่จะสร้างความมั่นคงเรื่องน้ำให้กับลุ่มเจ้าพระยามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำของระบบชลประทานที่มีอยู่ เพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำของแหล่งน้ำต่างๆ หรือแม้แต่การรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้ให้ประโยชน์สูงสุด แต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการโดยเฉพาะในฤดูแล้ง ซึ่งจะทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคตหากไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน

“โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล” เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะตอบโจทย์แก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงในการใช้น้ำในลุ่มเจ้าพระยา ตลอดจนยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่รอบโครงการอีกด้วย และที่สำคัญจะทำให้การใช้ประโยชน์จากเขื่อนภูมิพลได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ซึ่งเขื่อนภูมิพลมีความจุทั้งสิ้น 13,462 ล้านลบ.ม. แต่มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเฉลี่ยปีละประมาณ 5,900ล้านลบ.ม.เท่านั้น และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นในปี 2566 นี้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนก็น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่พื้นที่ลุ่มน้ำยวม จ.แม่ฮ่องสอน และจ.ตาก แต่ละปีมีปริมาณน้ำจำนวนมากทว่าไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ ไหลทิ้งลงสู่แม่น้ำสาละวิน และออกทะเลที่ประเทศเมียนมา

รวถมึงปีนี้ก็เช่นเดียวกันฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วม ปริมาณน้ำท่าที่เกิดขึ้นไหลออกนอกประเทศทั้งหมดน่าเสียดายหากปริมาณน้ำเหล่านี้ถูกผันมาเก็บไว้ที่เขื่อนภูมิพลใช้ภายในประเทศ ซึ่งนอกจากจะสร้างผลประโยชน์ให้ลุ่มเจ้าพระยา ชาวนาสามารถทำนาปรังได้แล้ว ยังจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมให้กับลุ่มน้ำยวม และลุ่มน้ำสาขา รวมทั้งยังได้พลังงานไฟฟ้าที่สะอาดแถมมาอีกด้วย

จากผลการศึกษาพบว่า หากสามารถดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาล ทั้งในด้านเกษตร เกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 70,000 ครัวเรือน ด้านอุปโภค-บริโภคจะมีการจัดสรรน้ำเฉลี่ยปีละ 300 ล้าน ลบ.ม.ได้รับประโยชน์ กว่า 1.3 ล้านครัวเรือนด้านการผลิตไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพลังน้ำของเขื่อนภูมิพล ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น426 ล้านหน่วย ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับประโยชน์100,000 ครัวเรือน รวมทั้งยังสร้างประโยชน์ด้านประมงในเขื่อนน้ำยวม ด้านการท่องเที่ยว ด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมรวมถึงยังช่วยการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศอีกด้วย

ทั้งนี้ “โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ย่อมมีผลกระทบเป็นธรรมดาแต่ได้มีการศึกษาและวางแผนลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น” โดยเฉพาะต่อสิ่งแวดล้อม จะมีการการปลูกป่าทดแทนเป็นจำนวน 2 เท่า หรือ 7,284 ไร่พร้อมทำแนวกันไฟและดูแลรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 9 ปี ส่วนสัตว์ป่าในพื้นที่จะมีการช่วยเหลือหรือผลักดันให้โยกย้ายออกตามธรรมชาติอย่างปลอดภัย ในส่วนของสัตว์น้ำ ก็จะมีการใช้งานนวัตกรรมอุโมงค์สั่นสะเทือนคัดแยกพันธุ์ปลาเพื่อป้องกันปลาเข้ามาในบริเวณสูบน้ำ ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็จะได้รับการทดแทนอย่างคุ้มค่าสมเหตุสมผล

โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล ประกอบด้วยงานหลักๆ คือ งานสร้างอ่างเก็บน้ำในแม่น้ำยวม ความจุ69 ล้านลบ.ม. งานสร้างสถานีสูบน้ำที่บ้านสบเงา งานสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ ความยาวประมาณ 62 กิโลเมตร และงานปรับปรุงลำน้ำแม่งูด ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเมื่อแล้วเสร็จจะผันน้ำมาเติบเขื่อนภูมิพลได้ปีละประมาณ 1,800 ล้านลบ.ม.

สำหรับความคืบหน้าของโครงการขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อน สร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน หลังจากผ่านความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่เข้มข้นจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบเรื่องน้ำของประเทศ ได้ให้ความสนใจ สอบถามความคืบหน้าและประโยชน์ที่ได้รับโครงการดังกล่าว

ถ้ามีแรงผลักดันจากรัฐบาล ผนวกกับปรากฏการณ์ เอลนีโญ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ น่าจะเป็นพลังบวกเร่งที่จะขับเคลื่อน “โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล” ให้เป็นจริงเสียที!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย

‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์

โชเฟอร์ไม่รู้! รถพ่วงล้อหลุด หมุนพุ่งข้ามเลน ชนรถคุณหมอยับ

ปาฏิหาริย์! ชายอังกฤษรอดชีวิตจากเครื่องบินแอร์อินเดียตก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved