หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูก‘นายจ้างอิสราเอล’ทิ้ง รอดชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบใกล้‘ฉนวนกาซา’กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย เผยซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย 15 วัน เชื่อมีชีวิตรอด-ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยเพราะระลึกถึงพระคุณพ่อพระคุณแม่ สวดมนต์ภาวนาและพุทธคุณหลวงพ่อที่ห้อยคอ 3 องค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก พร้อมด้วยนายสุปัน บุญมาพล นายก อบต.พิมูล , ว่าที่ร้อยตรีสมานมิตร ญาณบุญ ปลัด อบต.พิมูล , นายถาวร โนนทิง ผู้ใหญ่บ้านหาดทรายมูล หมู่ 4 และนายพิชัย ภูสง่า ผู้ใหญ่บ้านพิมูล หมู่ 7 ร่วมต้อนรับการกลับบ้านของนายวิไล เทพเหมือนไพร อายุ 40 ปี แรงงานไทยที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล มีญาติพี่น้องที่ทราบข่าว และเดินทางมารอรับ เข้าสวมกอดรับขวัญนายวิไลด้วยความดีใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่น
นายวิไล กล่าวว่า ทันทีที่กลับถึงแผ่นดินประเทศไทย ชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุการณ์สู้รบนั้น ที่พักของตนอยู่ห่างฉนวนกาซาเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ได้ยินเสียงขีปนาวุธถูกยิงสกัดบนท้องฟ้าเหนือหัวทั้งวันทั้งคืน ขณะที่นายจ้างก็ได้หนีไปหลบภัยที่อื่น ปล่อยให้ตนกับเพื่อนแรงงานไทยชาวสกลนครอีก 4 คน เผชิญชะตากรรมตามลำพัง โดยซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย จะออกไปไหนก็ไม่ได้ เพราะกลัวถูกกลุ่มฮามาสยิง และกลัวจะได้รับอันตรายจากสะเก็ดระเบิด พอมีโอกาสก็โทรประสานสถานทูตไทย เพื่อขอความช่วยเหลือกลับบ้าน และส่งข่าวมาให้ทางบ้านทราบว่าตัวเองปลอดภัย ยังดีที่ยังพอมีน้ำ มีอาหารเหลือให้กินประทังชีวิต ตลอด 15 วันที่อยู่ในหลุมหลบภัย จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล
“สิ่งที่ทำให้ตนแคล้วคลาดปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย เชื่อว่าหมั่นรำลึกถึงพระคุณพ่อพระคุณแม่ สวดมนต์ภาวนาบูชาพระรัตนตรัย และพุทธคุณของพระเครื่อง 3 องค์ที่ห้อยคออยู่ตลอดเวลา คือ หลวงพ่อรวย หลวงพ่อผ่าน และหลวงพ่อพิมูล ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่พ่อแม่ให้ติดตัวไป ช่วยคุ้มครองป้องกันภัย ตั้งแต่เดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอลเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตนไปทำงานในสวนเกษตร รายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท เหลือสัญญากับนายจ้างอีก 1 ปี หากเหตุการณ์สงบก็อยากกลับไปทำงานอีก เพราะรายได้ดี” นายวิไล กล่าว
ด้านนางชาลินี เทพเหมือนไพร อายุ 37 ปี ภรรยานายวิไล กล่าวด้วยความดีใจว่า ได้สามีกลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่สุดแล้ว ใจจริงไม่อยากให้สามีกลับไปอีก เพราะกลัวจะได้รับอันตราย ค่อยทำมาหากินทำนาทำไร่ที่บ้านเราก็พออยู่ได้ อย่างไรก็ตามก็สุดแท้แต่สามีว่าจะกลับไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานกระทรวงแรงงาน นายอำเภอห้วยเม็ก นายก อบต.พิมูล ผู้นำชุมชน รัฐบาล และกงสุลไทย ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจ และช่วยเหลือสามีให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยในครั้งนี้
ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า แรงงานไทยชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลทั้งหมด 230 คน ชาย 226 คน หญิง 4 คน เสียชีวิต 1 คน ขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนฯ 7 คน และเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 26 คน ////////-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี