เปิดนาทีเจอสมุน‘เสี่ยแป้ง’!นายกก้อยยันไม่เกี่ยวพาหนี-จนท.พลิกแผ่นดินล่า
25 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สตูล ว่า ปฏิบัติการค้นหานายเชาวลิต หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ผู้ต้องขังชายที่หลบหนีออกจากเรือนจำนครศรีธรรมราช ทุกเส้นทางขาเข้า และขาออกของด่านตรวจความมั่นคงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สตูล หมู่ 2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล ที่มีกำลังตำรวจ ทหาร หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจค้นรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกจากเข้มข้น
ขณะที่ด้านด่านพรมแดนวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล เฝ้าระวังเส้นทางรอยต่อประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซียอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการหลบหนี โดยทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจ สภ.ควนโดน มีการเพิ่มมาตรการตรวจตราอย่างใกล้ชิดและละเอียด
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นผลมาจากมีการติดตามจากกล้องวงจรปิดพบเส้นทางรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี มุ่งหน้าเข้า จ.สตูล โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ที่บริเวณด่านตรวจ แป-ระ สวนเทศ รอยต่อระหว่าง อ.ท่าแพ และ อ.ละงู ซึ่งสามารถมุ่งหน้าไปได้หลายเส้นทาง เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.2566 ก่อนจะพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.มะนัง เป็นจุดสุดท้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ได้สืบทราบว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อ.มะนัง เป็นอีกหนึ่งกุญแจที่จะไขข้อเท็จจริงว่ารถยนต์คันดังกล่าวไปขอความช่วยเหลือหรือไม่ จึงมีการติดตามหาตัวนักการเมืองท้องถิ่นรายดังกล่าว ซึ่งเดินทางไปที่สนามวัวชนที่ จ.นครศรีธรรมราช และถูกเชิญตัวเพื่อให้ปากคำยัง สภ.ทุ่งสง และต่อมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับ
สำหรับนักการเมืองท้องถิ่นรายดังกล่าว คือ นายภาณุ เพ็ชรประดับ หรือ “นายกก้อย” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปาล์มพัฒนา ซึ่งยืนยันว่า ทางชุดกองปราบปรามได้เชิญตัวไปสอบถามประเด็นว่าได้ติดต่อกับ นายแป้ง หรือเสี่ยแป้ง หรือไม่ ซึ่งตนได้ยืนยันในคำตอบว่าไม่เคยได้พูดคุยกันหลังถูกจับกุม โดยก่อนหน้า เสี่ยแป้ง เคยมาให้กำลังใจตนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา และยอมรับว่ามีลูกน้องของ เสี่ยแป้ง เดินทางมาหาตนด้วยรถยนต์ต้องสงสัยตามที่เป็นข่าวเมื่อเช้าวันที่ 22 ต.ค.2566 โดยเดินทางมากับลูกและเมีย โดยบอกว่า เสี่ยแป้ง ได้ฝากไว้ว่าหากเดือดร้อนให้มาหา “นายกก้อย” โดยมาของานทำ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้สอบถามอะไรมาก และให้ลูกน้องพาไปพักผ่อนโดยเปิดมะนังรีสอร์ทให้นอน โดยไม่ได้รู้ว่าเป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวและไม่เห็นข่าว
“นายกก้อย” กล่าวต่อว่า เช้าของวันที่ 23 ต.ค.2566 ตนมาเห็นข่าวว่าบุคคลที่ช่วย เสี่ยแป้ง หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเป็นคนเดียวกันกับคนที่มาขอทำงานตน จึงตกใจและบอกว่าไม่อนุญาตให้อยู่กับตน และขอให้ออกจากบ้านของตน และ อ.มะนัง ไป ซึ่งจะไปอยู่ที่ไหนนั้น ตนไม่ทราบ และยังคงยืนยันว่าการเดินทางมาของลูกน้อง เสี่ยแป้ง ไม่มี เสี่ยแป้ง เดินทางมาด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งในวันเดียวกันเขาก็ออกจากพื้นที่ อ.มะนัง ไป
“ผมยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะให้ที่พักพิง เพราะไม่ทราบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันที่ช่วย เสี่ยแป้ง ออกมา และยืนยันว่าเป็นรถคันเดียวกันตามที่เป็นข่าว” นายกก้อย กล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชุดเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 8 และภาค 9 ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และเชื่อว่ารถยนต์ของลูกน้อง เสี่ยแป้ง ได้ออกจากพื้นที่ จ.สตูล ไปแล้วเช่นกัน ในขณะที่ชุดปฏิบัติการหลักประจำพื้นที่ยังคงเข้มงวดสแกนพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งว่าในพื้นที่ไร้ซึ่งบุคคลที่ภาครัฐกำลังตั้งการตัวอยู่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี