หนุ่มมหาสารคามร้องทนายเจอสาวรู้จักผ่านแอปหาคู่ หลอกให้แต่งงานสูญเงินมรดกเกือบ 2 ล้าน
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2566 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หนุ่มวัย 34 ปี หอบหลักฐาน ทะเบียนสมรส สลิปการโอนเงิน เดินทางจากจังหวัดมหาสารคาม เข้าร้อง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกลูกสาวกำนันหลอกให้แต่งงานจดทะเบียนสมรส และหลอกนำเงินมรดกรวมจำนวนเกือบ 2 ล้านบาทให้ใช้หนี้แทน ก่อนถูกไล่ออกจากบ้าน จึงต้องการให้นายรณณรงค์ช่วย
โดยนายอิฐ (นามสมมุติ) หนุ่มวัย 35 ปี อาชีพช่างต่อเติมบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2565 ตนเจอกับ น.ส.แพน (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ฝ่ายหญิง ที่เป็นลูกสาวกำนัน ทางแอปหาคู่ชื่อ OMI พูดคุยกันผ่านแอปได้ประมาณ 1 เดือน โดยฝ่ายหญิงได้เคยช่วยเหลือตนเรื่องเงินในการฟ้องร้องคดีมรดกของพ่อจำนวน 60,000 บาท ฝ่ายหญิงได้ชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นให้แต่งงานด้วยออกหน้าออกตา จดทะเบียนสมรส ค่าสินสอดเงินสด 2 แสนบาท ทองคำ 7 บาท คืนเงินที่เอามาช่วยเรื่องมรดก 60,000 บาท และปรับปรุงบ้านใหม่ให้ แต่หลังจากแต่งงานฝ่ายหญิงได้นำเงินมรดกของตนไปเก็บรักษาไว้ และให้ตนช่วยใช้หนี้สินที่บ้านของฝ่ายหญิง โดยใช้เงินจากมรดกของตนที่ได้มาประมาณ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ฝ่ายหญิงยังให้ตนโอนเงินมรดกที่ได้มาเข้ามาเก็บไว้ที่บัญชีฝ่ายหญิง หลังจากแต่งงานได้ 3 เดือนฝ่ายหญิงกลับไม่คุยด้วย ไม่ให้กินข้าวด้วย ไม่ให้นอนด้วย และบีบตนให้ออกจากบ้านไป หลังจากไล่ออกจากบ้านแล้ว ฝ่ายหญิงได้เรียกให้แฟนเก่ากลับมาอยู่ด้วยที่บ้าน โดยที่ตนยังมีทะเบียนสมรสอยู่ ซึ่งทำให้ตนช้ำใจมาก คิดว่าตนถูกหลอกให้แต่งงาน ถูกหลอกให้เอาเงินมรดกที่ได้มาไปใช้หนี้ให้ หลังเกิดเรื่องราวดังกล่าวรวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ตนได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.บ้านเพชร จ.ชัยภูมิ แต่ตำรวจก็ไม่รับแจ้งเรื่องเงียบ ตนจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะอิทธิพลของพ่อของฝ่ายหญิงที่เป็นกำนัน ตอนนี้อยากเรียกร้องสิทธิต่างๆ คืนมา โดยเฉพาะเงินที่เสียไป เพราะฝ่ายหญิงมีการติดต่อมาให้ไปหย่า ส่วนทรัพย์สินของตนให้ตนไปฟ้องร้องเอา ตนยืนยันว่าจะไม่กลับไปคืนดีกับฝ่ายหญิงแน่นอน
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า กรณีนี้ต้องแยกเรื่องทรัพย์สินที่เป็นมรดกส่วนตัวถือว่าเป็นสินส่วนตัว แต่หลังจากแต่งงานไปแล้วไปซ่อมแซมบ้านไม่สามารถเอามาคืนได้ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นสินสอดไม่สามารถเอาคืนได้ ยกเว้นมีข้อตกลงคือในกรณีนี้คือทองคำที่ต้องแบ่งครึ่ง ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาหลังแต่งงานถือว่าเป็นสินสมรสต้องแบ่งครึ่ง และเรื่องฝ่ายชายที่เป็นแฟนเก่ากับฝ่ายหญิงไปอยู่ในที่อัพโคจรถือว่าผิดกฏหมาย สำหรับคดีนี้สามารถเรียกร้องคืนได้เฉพาะทรัพย์สินที่เป็นมรดก และถ้าหย่ากันทรัพย์สินต้องแบ่งครึ่ง ซึ่งผู้เสียหายจะได้เงินคืนเพียง 300,000 บาทเท่านั้น
เบื้องต้นหลังจากนี้จะประสานไปที่อำเภอที่จดทะเบียนเพื่อให้ไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้ คิดว่าน่าจะพูดคุยได้ไม่ใช่เรื่องยาก ---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี