วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางปวีณา หงสกุล ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี สภ.สวี จ.ชุมพร ว่า ช่วง 17.00 น. ตำรวจสภ.สวี ได้เข้าจับกุมตัวนายเอก ได้แล้วที่ห้องเช่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและจะคุมตัวส่งฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้ 3 พ.ย. พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่สองแม่ลูกซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ร้องไห้ดีใจกอดกันแน่นเพราะจากนี้จะไม่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาอีกแล้ว
สืบเนื่องจากวันที่ 19 ต.ค.66 นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี โทรสายด่วน 1134 ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาว 7 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา แม่เพิ่งมารู้เรื่องเพราะลูกถูกข่มขู่เอาไว้ ตัวเองและลูกกลัวจะเป็นอันตรายเพราะสามีเสพยาเสพติดและมักจะซ้อมทำร้ายเป็นประจำ ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
ทางด้าน นางแหม่ม เล่าว่า ตนอยู่กินกับนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ที่บ้านฝ่ายชาย จ.ชุมพร มาเป็นเวลา 17 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีลูกสาว 1 คน คือ น้องหญิง (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ตนกับสามีทำอาชีพรับจ้างแทงปาล์ม นายเอกมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและชอบทำร้ายตนเป็นประจำ ระยะหลังไม่ค่อยมีงานตนจึงกลับบ้านเกิดที่จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปรับจ้างแกะปู หารายได้เลี้ยงครอบครัว ส่วนนายเอกไม่ทำงานอะไรอยู่กับลูกที่จ.ชุมพร ซึ่งตนจะกลับไปหาลูกและส่งเงินให้เป็นประจำ
ตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นลูกผิดปกติ มีอาการก้าวร้าว กลัวพ่อมาก ต่อมาช่วงเดือนมิ.ย. ตนเห็นรูปในโทรศัพท์สามี เป็นรูปผู้ชายลักษณะคร่อมร่างด.ญ.คนหนึ่ง เห็นอวัยวะเพศถูไถกัน แต่ไม่เห็นหน้าทั้งสองคน ส่วนผู้ชายตนจำได้แม่นยำว่าเป็นสามีตนเพราะมีรอยสักอยู่ที่ต้นขา จากนั้นตนก็มาถามลูกสาวว่าพ่อทำอะไรรึป่าว แต่ลูกไม่ยอมพูดอะไร ซึ่งตนก็สงสัยจึงได้ไปถามสามี แต่สามีปฏิเสธและโมโหหาเรื่องทะเลาะก่อนจะทำร้ายตนจนแขนหัก และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นช่วงเดือนส.ค. สามีตนก็พาลูกสาวมาอยู่กับตนที่ห้องเช่า จ.สุราษฎร์ธานี ตนเก็บเรื่องคาใจและพยายามถามลูกสาวมาตลอด แต่ลูกไม่ยอมพูด กระทั่งวันที่ 19 ต.ค. น้องสาวตนรู้เรื่องจึงแกล้งถามหลาน และลูกสาวก็ยอมบอกว่าถูกพ่อข่มขืน 2 ครั้ง ในช่วงเดือนเม.ย. ถึงมิ.ย. พร้อมกับทำท่าให้ดู ครั้งแรกถูกกระทำในบ้าน ครั้งที่ 2 ในห้องน้ำ ภายในบ้านพ่อที่จ.ชุมพร โดยพ่อเอารูปถือปืนยาวมาให้ลูกสาวดูแล้วข่มขู่ว่า “ถ้าเอาเรื่องไปบอกแม่หรือบอกใครจะยิงทิ้งให้ตายทั้งแม่และลูก” ลูกสาวจึงกลัวว่าแม่จะเป็นอันตราย เพราะที่ผ่านมาลูกก็เห็นพ่อทำร้ายแม่เป็นประจำจึงไม่กล้าบอกใคร
เมื่อทราบเรื่องทั้งหมด นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี สภ.สวี จ.ชุมพร ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปจ.ชุมพร ซึ่งนางแหม่มได้พาลูกสาวหนีออกมาจากบ้านจ.สุราษฎร์ธานี มาพบกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้พานางแหม่มและลูกสาวไปพบ ผกก.สวี เพื่อแจ้งความ จากนั้นนางปวีณา ได้รับสองแม่ลูกเข้าอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ จะได้พาสองแม่ลูกเข้ากรุงเทพฯ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นพบเด็กมีร่องรอยถูกข่มขืน ต่อมาวันที่ 27 ต.ค. นางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองแม่ลูกไปสอบสหวิชาชีพที่จ.ชุมพร ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายเอก พ่อแท้ๆ ที่ข่มขืนลูก จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี