ตำรวจบุกจับ “ใบเฟิร์น” เนตไอดอลชื่อดังกลางห้างดังย่านจตุจักร พฤติการณ์หลอกผู้เสียหายกว่า 40 คน ร่วมลงทุนร้านตัดผม-ทำเล็บ มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยถึงการจับกุมน.ส.มณฑิรา อินทร์สุวรรณ หรือใบเฟิร์น อายุ 31 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนจาก 2 หมายจับคือ 1.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.997/2566 ลงวันที่ 5ต.ค.66 2.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.1073/2566 ลงวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ที่ห้างดังแห่งหนึ่ง ย่านจตุจักร กทม.
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากตำรวจชุด PCT5 และชุดสืบนครบาลรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงให้ลงทุนร้านตัดผมและร้านทำเล็บ ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 40 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท จากการการตรวจสอบพบว่าช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเริ่มโพสต์เชิญชวนในโซเชียลมีเดียของตนเอง ให้ร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนการทำร้านตัดผมและทำเล็บ โดยเสนอเป็นแพ็กเกจ รวมถึงยอดปันผลขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และเมื่อถึงกำหนดจะได้เงินผล
ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีผู้ติดตามในแอปพลิเคชัน อินสตราแกรมมากกว่า 120,000 คน และโพสต์ภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีชื่อเสียงหลายคน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและตัดสินใจโอนเงินไปร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาแล้ว ผู้ต้องหาก็ไม่ค่อยตอบข้อความ อ้างว่างานมาก ติดงานต่างๆ เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินปันผล น.ส.มณฑิราจะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงิน จนถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา น.ส.มณฑิราอ้างกับเหยื่อว่า บริษัทถูกยักยอกเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาคืนให้เหยื่อผู้ร่วมลงทุน และหลบหนีไป กระทั่งผู้ที่ร่วมลงทุนกับน.ส.มณฑิราทยอยเข้าแจ้งความ และตำรวจออกหมายจับ 2 หมายจับ ล่าสุดผู้เสียหายให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานในพื้นที่ กทม.
ต่อมาพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว จนวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพบผู้ต้องหากำลังเดินหาซื้อชุดว่ายน้ำกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ จึงเข้าแสดงตัวและจับกุมตัวภายในห้างแห่งหนึ่ง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
สอบสวน น.ส.มณฑิราให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเปิดร้านทำผมและทำเล็บอยู่ จ.เชียงใหม่ เห็นว่ามีรายได้ดี จึงชวนประชาชนมาลงทุนร่วมกันรายละ 50,000-1,000,000 บาท และเปิดรับลงทุนร่วมรับจำนำของและนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมาก รวมถึงตนซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้ ทำให้ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ร่วมลงทุน ส่วนเรื่องร้านทำผม ตนไม่สามารถหาช่างทำผมได้ และลูกค้าน้อยจึงไม่มีเงินจ่ายให้ผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้ตนพยายามหาสินค้าแบบซื้อมาขายไปมาขาย เพื่อหวังว่าถ้ามีเงินจะนำไปทยอยคืนให้ผู้เสียหาย ล่าสุดเข้ากรุงเทพฯมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว แต่ไม่ได้เป็นการหลบหนี หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวต่อว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และจะขยายผลการจับกุมโดยละเอียด จากข้อมูลที่ได้ วิธีการที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้หลอกลวงนั้น เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้น่าเชื่อถือ ถ่ายภาพคู่รถหรูหรือดาราผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ จากนั้นการหลอกลวงจึงทำได้ไม่ยากนัก อย่างไรก็ตาม ขอเตือนประชาชนยุคใหม่ว่า การร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้น มีความเสี่ยง เพราะปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก การตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์ในโลกออนไลน์นั้น ยังไม่เพียงพอ ต้องศึกษาหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี