‘กองปราบปราม’แกะรอยตะครุบ‘สิบโท’อดีตทหารรบพิเศษ‘เสือคาบดาบ’ มือปืนรับจ้างใช้อาวุธสงครามยิงถล่มคู่แข่งยาเสพติดผู้จ้างวานที่ลำพูน หนีคดีเปิด‘สำนักฤาษี’ที่สุรินทร์ กบดานกว่าปี
10 พฤศจิกายน 2566 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. , พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. จับกุม ส.ท.เมธฤต หรือ สุนทร หรือเสืออ้อย อายุ 38 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดลำพูน ลงวันที่ 4 พ.ย.63 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ , มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองฯ , พาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะฯ” ได้ภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง หมู่ 2 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดย ส.ท.เมธฤต เป็นผู้ต้องหาตามประกาศสืบจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2566 ลำดับที่ 105
พฤติการณ์คือเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง นายมณฑล กับ น.ส.อราชัญ บริเวณถนนทางหลวงชนบทบ้านสันวิไล หมู่ 17 ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไป จากการสืบสวนทราบว่ามี นายสุรพงศ์ และ นายรุ่งโรจน์ ร่วมกับทีมสังหารมี นายเกรียงไกร , นายบุญทวีฯ และชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน รวม 5 คน ได้รับคำสั่งจากนายพงษ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เป็นชาวเขาเผ่าลีซอ ได้ร่วมกันวางแผนโดยให้นายสุรพงศ์ ใช้ให้นายรุ่งโรจน์ โทรศัพท์ล่อนายมณฑล ออกมา เพื่อที่จะให้นายสุรพงศ์ และทีมสังหาร ใช้อาวุธสงครามที่ใช้กระสุน ขนาด 5.56 ยิงหลายนัด กระสุนปืนถูกนายมณฑล ที่บริเวณโคนขาด้านในข้างซ้ายและถูก น.ส.อราชัญ ที่บริเวณหัวเข่าซ้าย น่องขวา และบริเวณข้อมือ กลุ่มคนร้ายได้แยกย้ายกันหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายสุรพงศ์ และนายรุ่งโรจน์ ได้ทำการสอบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย เป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่อาจมีการขัดผลประโยชน์กับนายพงษ์ ผู้สั่งการ และให้การว่าชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ คือ สิบโท (ส.ท.) เมธฤต หรือสุนทร ได้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ด้วย จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดลำพูน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำอันอุกอาจ มีการก่อเหตุในลักษณะของมือปืนรับจ้าง รับงานจากผู้มีอิทธิพล ใช้อาวุธสงครามทำอันตรายต่อบุคคลอื่น จากการสืบสวนทราบว่า ส.ท.เมธฤต หนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกจับกุม ได้หลบหนีมาบวช เปิดสำนักฤาษี ไว้หนวดเครา ไว้ผมยาวรุงรัง เล็บยาวสีแดงเหมือนฤาษีกายแก้ว กบดานอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตะเข็บชายแดนกัมพูชา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้นอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นชายไทยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณใบหน้าตรงกับ ส.ท.เมธฤต เดินอยู่บนถนนภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง หมู่ 2 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เรียกให้บุคคลดังกล่าวหยุด และเข้าไปแสดงตัว และสอบถามจนทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ ส.ท.เมธฤต บุคคลตามหมายจับข้างต้น จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ
นอกจากนี้ทราบว่า ส.ท.เมธฤต ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นอดีตทหารจบหลักสูตรรบพิเศษ “เสือคาบดาบ” ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี