เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.จำรัส สืบสำราญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มี นายพิทยา พลายงาม อายุ 40 ปี ชาว ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถส่งน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้อหนึ่งใน อ.พุทไธสง ได้นำกระเป๋าถือแบบผู้หญิง สีขาวลายจุดหลากสี ภายในมีเอกสารทางราชการหลายใบ และบัตรประจำตัวประชาชน น.ส.สาวิตรี ริมมหา อายุ 42 ปี ชาว ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเงินสดอีกจำนวน 12,071 บาท นำมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามนำส่งมอบคืนเจ้าของ
จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมยศ พื้นชัยภูมิ ผกก.สภ.พุทไธสง ทำการการตรวจสอบภายในกระเป๋าดังกล่าว พบเป็นธนบัตร ชนิดใบละ 1,000 บาท 500 บาท 100 บาท 50 บาท 20 บาท และเหรียญบาท 12,071 บาท และมีเอกสารทางราชการ อาทิ ใบขับขี่ บัตรประชาชน และรายการเมนูอาหารหลายรายการ ซึ่งคาดว่าเจ้าของน่าจะนำเงินไปซื้อของมาทำอาหารขายหรือทำไปงานอะไรสักอย่าง แต่ทำหล่นก่อน
โดยภายหลังตำรวจตรวจสอบหลักฐานและนับเงินเสร็จ จึงได้นำไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งระหว่างนั้น พบว่ามี น.ส.สาวิตรี ริมมหา ซึ่งเป็นแม่ค้าขายข้าวมันไก่อยู่ในตลาดสดเทศบาลตำบลพุทไธสง ได้เดินทางเข้ามาที่โรงพักเพื่อแจ้งกระเป๋าหายพอดี ตำรวจจึงได้ทำการนำส่งมอบคืนเจ้าของต่อไป
นายพิทยา บอกว่า ตนเองได้เก็บกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าว ได้ที่บริเวณริมถนนสายพุทไธสง-บ้านแดง ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ตนเองกำลังขับรถยนต์ตระเวนส่งน้ำดื่มให้กับลูกค้าตามบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆตามปกติ ขณะนั้นพบเห็นกระเป๋าใบดังกล่าวตกอยู่ข้างทาง ตนจึงจอดรถและหยิบมาดู ก็พบว่าภายในมีเอกสารทางราชการและบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงเงินสดอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ตนจึงตัดสินใจรีบนำมาส่งมอบให้ตำรวจ สภ.พุทไธสง เพื่อให้ประกาศติดตามหาเจ้าของ เพื่อนำส่งมอบคืนให้เจ้าของกระเป๋าสตางค์ เนื่องจากข้างในกระเป๋ามีเอกสารทางราชการและบัตรประชาชนอยู่ด้วย ซึ่งตำรวจไม่น่าจะติดตามตัวได้ยาก
นายพิทยา บอกด้วยว่า ตนไม่คิดอยากจะได้เงินจำนวนนี้มาเป็นของตนเอง ถึงแม้เงินจะเยอะถึงหมื่นกว่าบาทก็ตาม ตนอยากให้เจ้าของได้เงินคืน เพราะเขาอาจจะจำเป็นใช้เงินจำนวนนี้ เพราะเมื่อคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา เงินหายใครๆ ก็คงอยากได้คืน และถ้าไม่ได้คืนเขาคงจะได้รับความเดือดร้อน และตอนนี้ก็ดีใจที่เจ้าของเงินได้มารับเงินที่ทำหล่นหายคืนด้วยตัวเอง
ด้าน น.ส.สาวิตรี บอกว่า รู้สึกดีใจและต้องขอบพระคุณในน้ำใจของนายพิทยา ที่ไม่นำเงินดังกล่าวไปเป็นของตนเอง และรีบนำมาส่งมอบให้ตำรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของ โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ตนเองจะนำไปซื้อไก่และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อนำมาขายข้าวมันไก่ในวันถัดไป แต่ได้ทำหล่นหายระหว่างเดินทาง พอมาถึงตลาดขณะที่กำลังจะไปซื้อของแต่กลับพบว่าไม่เห็นกระเป๋าเงิน ด้วยความตกใจและคิดว่าน่าจะทำหล่นหลายระหว่างทาง จึงได้ขับรถดูตามเส้นทางที่ตนเองขับผ่านมา เมื่อไม่เห็นจึงรีบเข้าแจ้งตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามหา แต่พอมาถึงโรงพักตำรวจได้บอกว่ามีพลเมืองดี ได้นำกระเป๋าสตางค์ ที่ตนเองทำหล่นหายระหว่างทาง และเก็บได้นำมาส่งมอบให้ตำรวจติดตามหาเจ้าของอยู่พอดี ซึ่งภายในมีเอกสารกับบัตรประชาชนของตนเอง และมีเงินสดอยู่ 12,071 บาท อยู่ครบทุกบาททุกสตางค์
ด้าน ผกก.สภ.พุทไธสง ได้กล่าวชื่นชมในความมีน้ำใจ และความซื่อสัตย์ของนายพิทยา ที่ไม่คิดอยากจะได้สิ่งของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ถือเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมในสังคมยุคปัจจุบันนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี