"ประธานศาลฎีกา"เปิดงานสัมมนาผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานทั่วประเทศ พัฒนาศักยภาพอำนวยความยุติธรรมตามนโยบาย"ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก" "อินทิรา"อธ.ศาลแรงงาน ภ.1 สนองนโยบาย สานสัมพันธ์ เพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ ด้านกฎหมายแรงงานแก่ผู้พิพากษาสมทบกว่า 600 คน
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อระหว่างวันที่ 17 - 19 พฤศจิกายน ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ การประชุมสัมมนาผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศครั้งที่ 9 ประจำปี ที่ศาลเเรงงานภาค 1 โดยมี น.ส.อินทิรา ฉิวรัมย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 1 และคณะ เป็นเจ้าภาพ มี นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ อดีตประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง และอธิบดีผู้พิพากษาศาลเเรงงานภาค 1 - 9 พร้อมด้วยคณะผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน
นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา กล่าวเปิดงานว่า ศาลยุติธรรม เป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจตุลาการด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา ในการพิจารณาพิพากษาคดีตามกฎหมายต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ไร้ซึ่งอคติ เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับความ เดือดร้อน หรือมีข้อพิพาท โดยที่ศาลแรงงานเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแรงงาน ซึ่งมีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากคดีแพ่งและคดีอาญาโดยทั่วไป เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างนายจ้างและลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานหรือเกี่ยวกับสิทธิของนายจ้างและลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ โดยกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีเป็นระบบไตรภาคี ประกอบด้วย ผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้าง และผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้าง ฝ่ายละเท่าๆ กัน ซึ่งในการพิจารณาพิพากษาคดีแรงงานนั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมายแรงงาน ดังนั้น บุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่จึงต้องได้รับการเพิ่มพูน ความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน และพัฒนาศักยภาพเพื่อให้มีความเข้มแข็งทั้งในด้านวิชาการ กฎหมาย และการปฏิบัติงาน เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามนโยบาย "ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียมทันโลก" ในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ ผู้พิพากษาสมทบจะได้รับความรู้ทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนางานของศาลแรงงาน และนำประโยชน์ที่ได้รับไปกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานให้มีมาตรฐานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนต่อไป
น.ส.อินทิรา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 1 กล่าวรายงานต่อประธานศาลฎีกา ว่า ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 ได้บัญญัติให้ศาลแรงงานเป็นศาลชำนัญพิเศษ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแรงงาน ซึ่งมีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากคดีแพ่งและคดีอาญาโดยทั่วไป การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงานจะต้องเป็นไปโดยประหยัด สะดวกและเที่ยงธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ศาลแรงงานภาค 1 จึงได้จัดโครงการ การประชุมสัมมนาผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศครั้งที่ 9 ขึ้น อันเป็นการเพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน และเปิดโอกาสให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ประสบการณ์ ทัศนคติ วิสัยทัศน์ ตลอดจนรับฟังปัญหา อุปสรรคของการดำเนินกระบวน พิจารณาคดีแรงงาน อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนต่อไปในการจัดโครงการ การประชุมสัมมนาผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 นี้ ศาลแรงงานภาค 1 ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสัมมนา โดยมีผู้บริหารศาลแรงงานกลาง ผู้บริหารศาลแรงงานภาค 1 - 9 ให้เกียรติมาเป็นผู้สังเกตการณ์ และมีผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานกลางผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานภาค 1 - 9 เป็นผู้เข้าร่วมสัมมนา รวมทั้งสิ้นประมาณ 600 คน
- 006