ที่โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 (นครพนม-คำม่วน) สำนักงานตั้งอยู่ใกล้หมวดการทางฯ ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 22 หรือถนนนิตโย (นครพนม-สกลนคร) บ้านดอนยานาง ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งสัญญาช่วงที่ 2 นี้ รถไฟรางคู่พาดผ่าน 4 จังหวัด คือ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด, อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร, อ.นิคมคำสร้อย อ.เมืองฯ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และ อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร อ.เมือง จ.นครพนม รวมระยะทาง 177 กิโลเมตร
โดยมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดินประชาชน ในสัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 มีบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ 3 บริษัทกิจการร่วมค้า คือ 1.บริษัท P.CET จำกัด 2.บริษัทไทยพิค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด และ 3.บริษัท วัชรขจร จำกัด ร่วมดูแลโครงการฯ ได้มีประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดิน ทยอยมายื่นเอกสารสำคัญ อาทิ โฉนดที่ดิน บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ฯลฯ เพื่อใช้ประกอบในสัญญาเวนคืน โดยพนักงานโครงการได้รวบรวมเอกสาร เพื่อเสนอผู้ดูแลโครงการ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินเวนคืนตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ นายไชยา วงศ์สิทธิพรรุ่ง วิศวกรโครงการฯ ได้ชี้แจงด้วยเอกสาร ว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 โดยกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น, อ.กุดรัง อ.บรบือ อ.เมืองฯ จ.มหาสารคาม ตามด้วย อ.ศรีสมเด็จ อ.เมืองฯ อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ อ.โพธิ์ชัย อ.โพนทอง อ.เมยวดี อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด, อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร, อ.นิคมคำสร้อย อ.เมืองฯ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และ อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร อ.เมือง จ.นครพนม
มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รวมระยะทาง 355 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 66,848.33 ล้านบาทมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
โดยใน พ.ร.ฎ.เวนคืน ระบุเหตุผลถึงความจำเป็นต้องสร้างทางรถไฟสายนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก ความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค จึงกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด ซึ่งประชาชนทราบถึงความจำเป็นในการเวนคืนเป็นอย่างดีและให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัญหาอุปสรรคมากไหม ยอมรับว่าทุกที่ย่อมมีปัญหา แต่ก็สามารถแก้ไขลุล่วงด้วยดี โดยส่วนใหญ่พื้นที่เวนคืนจะเป็นที่นา ประชาชนจึงขอทำนาอีก 1 ฤดูกาล เมื่อผ่านการเก็บเกี่ยวไปแล้ว ก็พร้อมเปิดพื้นที่ให้โครงการนำเครื่องมือหนักเข้าได้ทันที ที่สำคัญตอนนี้มีมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โครงการฯ เพื่อหลอกลวงผู้ถูกเวนคืน หากสงสัยให้ติดต่อสำนักงานโครงการฯโดยตรง
สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ช่วงสัญญาที่ 2 หนองพอก-นครพนม เริ่มโครงการ 21 เมษายน 2564 สิ้นสุดโครงการ 31 มีนาคม 2570 ระยะเวลา 1,440 วัน (48 เดือน) และก่อสร้างด้วยภาษีของประชาชนประมาณวันที่ 25 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ทางโครงการฯจะนำเครื่องมือหนักเข้าปรับพื้นที่อย่างเต็มอัตรา เนื่องจากประชาชนเสร็จสิ้น การเก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี