กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU / KNLA จับมือ กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA อัดทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบที่ 75 ตรงข้ามฐานฯสะกอท่า อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังการปะทะผ่านไป 2 ชั่วโมง ทหารกะเหรี่ยงสามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้สำเร็จ
 
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 06.00 น. แหล่งข่าวผู้นำระดับสูง กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา / KA เปิดเผยว่า เมื่อเช้ามืดวันนี้ กองกำลังกระเหรี่ยงคะยา KA ได้ร่วมสนธิกำลังกับ กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNLA กองพล 5 เข้าโจมตีฐานที่มั่นทหารเมียนมา พัน.ร. 75 ฐานสะกอท่า โดยได้มีการปะทะกันอย่างดุเดือด

สำหรับทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 75 ได้ถูกส่งเข้ามาสับเปลี่ยนกำลังกับทหารเมียนมาชุดเดิม ไม่ทราบหมายเลขกองพัน ได้ประมาณ 4 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางฝ่ายกองกำลังผสม กะเหรี่ยง KNLA และ KA ใช้เวลาในการโจมตีฐานที่มั่นดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมงและสามารถยึดฐานดังกล่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จ อย่างไรก็ตามการสู้รบดังกล่าว ทางฝ่ายกะเหรี่ยงคะยา ได้แก่ กองร้อยโดรน ของ กองกำลัง KNDF เป็นฝ่ายสนับสนุนโดรนโจมตีให้กับ ฝ่ายกะเหรี่ยงอิสระ KNLA จนประสบความสำเร็จ

สำหรับพื้นที่ใน จ.ลอยก่อว์ เมืองหลวงของรัฐคะยา ยังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 กองกำลังผสม ประกอบด้วย ได้แก่ KA KNDF PDF ยังคงมีการสู้รบอย่างดุเดือด และปิดล้อมทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบที่ 54 ซึ่งมีกำลังพลประมาณ 200 นายในตัวเมืองลอยก่อว์ ซึ่งกองทหารเมียนมาดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนอาวุธปืนใหญ่ แบบ ฮาววิตเซอร์ ขนาด 105 มม. จาก กองร้อย ป.360 และ กองร้อย ป.362 ส่วนกำลังสนับสนุนของทหารเมียนมาที่ส่งมาช่วยเหลือ กำลังทหารเมียนมาที่ถูกปิดล้อมในเมืองลอยก่อว์ ยังไม่สามารถผ่านด่านของกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคะยา เข้ามาช่วยเหลือในเมืองลอยก่อว์ได้แต่อย่างใด

นอกจากการสู้รบในเมืองลอยก่อว์แล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 18.00 น. กองกำลัง KA ของกะเหรี่ยงคะยา ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ค่ายป่าตึง ที่อยู่ตรงข้ามช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พบว่าทหารเมียนมาที่ค่ายดังกล่าวได้หนีออกจากฐานที่มั่นไปแล้ว และทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA สามารถจับกุมทหารเมียนมาได้ 1 นายขณะเมายาเสพติดและไม่พบอาวุธติดตัวแต่อย่างใด

ทางด้านศูนย์สั่งการชายแดนไทยด้านประเทศเมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน รายงานว่า ปัจจุบันยอดผู้ลี้ภัยในไทย มีจำนวน 2,729 คน มีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงคะยา หลบหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาที่ ปลอดภัยชั่วคราวที่บ้านใหม่ในสอย จำนวน 109 คน ส่วนที่บ้านพะแข่ ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม พากันเดินทางกลับจำนวน 105 คน