เพจประมูลที่พักหรู ราคาแสนถูก ถึงเวลาลูกค้าต้องออกเงินไปก่อน สุดท้ายไม่ได้เงินคืน บริษัทบอกไม่เหลือเงินแล้ว ความเสียหายเป็นล้าน ยังไม่รู้เงินหายไปไหน

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย ที่ประมูลซื้อที่พักกับทางเพจ เพจหนึ่ง เป็นโรงแรมหรูทั่วประเทศไทย เอามาลงประมูลในราคาแสนถูก ทั้งยังมีโปรสารพัด แต่สุดท้ายช่วงหลังไม่ได้เข้าพัก บางคนต้องจ่ายเงินไปก่อน แล้วก็ไม่ได้เงินคืน

ผู้เสียหายเล่าว่า พฤติการณ์ของเพจนี้ มีเจ้าของเป็นนายทหาร ภรรยาของเขาเป็นแอดมิน เริ่มแรกเขาเริ่มประมูลที่พักในเฟซบุ๊ก โดยจะเอาที่พักดีๆ หรูๆ ตามต่างจังหวัด เช่น พัทยา หัวหิน มาเปิดประมูลในราคาดีๆ บางห้องราคาเต็มหลักหมื่นต่อคืน เขาเอามาประมูลราคาเริ่มต้นแค่ พันกว่าบาท ให้แข่งราคากันตามสบาย จะเสนอราคารอบละสิบบาทก็ยังได้

เวลาที่ใครชนะประมูล ต้องรอทิ้งช่วงไปหลายเดือน ถึงจะทักไปจองวันเข้าพักได้ บางครั้งชนะประมูล เขาจะให้เรารอไปก่อน 4 เดือน ถึงจะทักไปหาเขาเพื่อจองวันเข้าพักได้ ช่วงแรกๆ มีคนไปพักได้จริง ได้เข้าพักโรงแรมหรูในราคาถูกมากๆ มีการรีวิวลงในกลุ่มไลน์ของบริษัทนี้ ถูกใจก็กลับมาจองเพิ่ม ซื้อเพิ่ม ประมูลเพิ่ม อย่างกรณีของคุณอ้อม หนึ่งในผู้เสียหาย จองไปถึง 122 โรงแรม หมดเงินไปเป็นแสน เพราะหวังจะได้พักผ่อนหลังทำงานมาหลายปี 

นอกจากนี้ยังมีโปรรีวิว คือจะให้สมาชิกไปเข้าพักฟรี แต่ต้องถ่ายรูป ลงรีวิว ว่าไปเข้าพักจริง รีวิวความสวยงามของที่พักให้สมาชิกคนอื่นๆ ดู โดยการจะไปเข้าพัก ต้องวางเงินประกันรีวิวกับเขาไว้ คืนละหลายพันบาท รวมๆ ก็หมื่น เมื่อไปพักแล้วรีวิวเสร็จ เขาจะคืนเงินประกันให้

แต่ความเสียหายมาเกิดตอนที่คนไปรีวิวที่พัก แต่เขาไม่คืนเงินประกัน ส่วนคนที่ซื้อที่พักด้วยการประมูล เขาเสนอว่า ถ้าอยากไปเข้าพัก ให้ลูกค้าจองที่พักเองผ่านเว็บไซต์อะไรก็ตามแต่ จ่ายเงินค่าที่พักเองไปก่อน แล้วเขาจะโอนเงินคืนให้ ช่วงแรกก็โอนคืนจริง แต่หลังๆ เริ่มผัดผ่อนไปเรื่อย โอนช้า ขอทยอยคืน จนสุดท้ายไม่ได้คืนเลย

ผู้เสียหายหลายรายที่ยอดเงินไม่เยอะ เขารู้สึกว่าพอติดตามยาก เขาก็ยอมทิ้ง ไม่ตามเรื่องต่อ แต่ก็มีบางคนที่ประมูลไปหลายดีล หมดเงินไปหลักแสน แต่พอเกิดปัญหากลัวครอบครัวจะรู้ เขาก็ไม่กล้าออกมาเอาเรื่อง

ล่าสุดทราบว่าทางบริษัทไม่มีเงินจะเอามาคืนลูกค้า สามีภรรยาคู่นี้หันมาขายขนมถ้วยเพื่อหารายได้ ลูกค้าใหม่ๆ ก็ไม่มีใครกล้าซื้อ หรือกล้าประมูลอีก ไม่รู้ว่าเงินที่ได้ไป หายไปไหนหมด นอกจากนี้ยังมีลูกค้าบางรายถูกขอยืมเงินเอาไปหมุน เอาไปลงทุน เพื่อหวังจะทำธุรกิจต่อไป

ด้านทนายรณณรงค์ ชี้ให้เห็นว่า การจะซื้อดีลอะไรต่างๆ ก็ต้องไปดูว่าถ้ามันราคาถูกมากๆ คนขายเขาได้กำไรไหม มันเป็นการหลอกลวงไหม ต่อให้มีรีวิว ก็ต้องดูว่ามันเป็นหน้าม้าหรือไม่ เพราะการขายอะไรในราคาที่มันถูกเกินจริงมากๆ มันเป็นไปไม่ได้ คนเราทำธุรกิจต้องมีกำไร มันถึงจะดำรงอยู่ได้ หลังจากนี้ให้ทางผู้เสียหายไปแจ้งความเข้าไประบบของตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ตำรวจไซเบอร์มาดูแล ซึ่งดูความผิดแล้วน่าจะเป็นเรื่องการฉ้อโกง และเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ขณะที่ ทนายเอกนรินทร์ มีดี ทนายความของบริษัทที่ขายที่พักดังกล่าว โฟนอินเข้ามาบอกว่า เพิ่งได้รับการติดต่อจากทางบริษัท ยังไม่ได้มีการสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ได้ครบถ้วน ตนก็อยากจะทำให้ความจริงปรากฏ เพราะเขาบอกว่าบริษัทไม่เหลือเงินเลย เงินเป็น 0 ทั้งที่มีผู้เสียหายมากถึง 200 กว่าคน มีเงินเข้ามาเยอะมาก แล้วเงินโอนออกไปไหน ไปหาใครบ้าง อันนี้ตนได้ให้ทางบริษัทไปคัดสเตทเมนต์มาแสดง ยืนยันว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม