เครือข่ายคายสิ้นเส้นทางหนี‘เสี่ยแป้ง’ ลงจากเขาถึงลงเรือ ปูดซุกปีกอดีต‘พ.ท.’อินโดฯ
1 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบการไล่ล่านายเชาวลิต หรือ “แป้ง นาโหนด” ที่หลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 แล้วเข้ามาซ่อนตัวในพื้นที่บนเทือกเขาบรรทัด บริเวณบ้านในตระ ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายแป้ง ยิงปะทะกับตำรวจ และได้หลบหนีไปอย่างลอยนวล
จากนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ท.อิทธิพล , พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดปฏิบัติการจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดในพื้นที่ จ.พัทลุง สามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม และกระสุน 142 นัด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายทนงศักดิ์ 2.นายสืบศักดิ์ 3.นายอัสฮัร และ 4.นายสุเชษฐ์ และ 5.นายกัมปนาท ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ทั้งหมดเป็นกลุ่มบุคคลที่มีส่วนช่วยเหลือนายแป้ง ในการหลบหนี
จากการสอบปากคำ นายสุเชษฐ์ฯให้การว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ตนได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่งให้ไปรับตัวนายแป้ง โดยตนได้ใช้รถจักรยานยนต์ (จยย.) ขี่ไปรับที่บ้านป่าพง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เมื่อไปถึงพบนายแป้ง ริมถนน ตนจึงได้ส่งสัญญาณให้มาขึ้นรถ จยย. และได้ขับขี่โดยมีนายแป้ง นั่งซ้อนท้าย จนมาถึงหน้าวัดพรุนายขาว ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง จึงส่งต่อให้กับบุคคลอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งตนไม่รู้จัก แต่จำรถที่มารับได้เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยก่อนเดินไปขึ้นรถยนต์ นายแป้ง สั่งตนให้ไปเอาของ โดยไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ไปเก็บให้ด้วย โดยบอกไว้ก่อนว่าให้ไปเอาจุดใด อย่างไรก็ตาม เมื่อตนได้ส่งตัวนายแป้ง แล้ว ตนได้ขับขี่รถจยย.กลับบ้านพัก
ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ตนได้ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ออกจากบ้านพัก เพื่อไปเอาของดังกล่าว เมื่อไปถึงจุดที่นายแป้ง แจ้งไว้ ตนได้เดินเข้าไปดูพบว่าเป็นสิ่งของห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ ตนจึงได้เดินไปหยิบและนำมาขึ้นรถ และขับกลับมาที่บ้านพัก แล้วนำไปฝังไว้หลังบ้านพักของตน จนถูกตำรวจนำหมายค้นบ้านเข้ามาค้นบ้านและพบของกลางดังกล่าว คือ อาวุธปืนสงคราม
ขณะที่แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่ารถยนต์เก๋งที่น่าจะพานายแป้ง ไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.สตูล ภายใต้การดูแลของผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง จากนั้นได้หลบหนีมาลงเรือสปีดโบ๊ทที่บริเวณท่าเรือในท้องที่บ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ อินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่านายแป้ง น่าจะไปหลบซ่อนตัวใน จ.อาเจะห์ โดยมีผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งที่อดีตเคยค้าขายทางเรือกับประเทศอินโดนีเซีย เป็นผู้ให้ความสะดวกในการหลบหนี
ทั้งนี้ มีการประสานงานกับอดีตนายทหารยศ “พันโท (พ.ท.)” นายหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย เป็นผู้ให้การดูแล และให้ที่พักในขณะที่นายแป้ง หนีซ่อนตัวในจังหวัดดังกล่าว และต่อมานายแป้ง ได้อัดคลิป 3 คลิป จนฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ ซึ่งหลายคนยังเชื่อว่าในขณะนี้นายแป้ง น่ายังคงหลบหนีในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ภายใต้การดูแลของอดีตทหารยศ “พันโท” นายดังกล่าว
ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 กำลังตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สตูล เข้าตรวจยึดรถกระบะ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าใช้นำทางพานายแป้ง ไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด โดยมีนายอัชฮัร เป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งชุดจับกุมได้นำตัวนายอัชฮัร พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งให้ พ.ต.ต.ปิยะพงศ์ เต็มนิล สว.(สอบสวน) สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนนายสุเชษฐ์ เคยถูกจับกุมคดีไอซ์ และยาบ้า พร้อมอาวุธปืน และมีการตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ 1 คัน ราคาประมาณ 1,500,000 บาท คาดว่านายสุเชษฐ์ น่าจะรู้จักกับนายแป้ง ขณะเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำกลางพัทลุง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี