บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ร่วมกับจังหวัดนครศีธรรมราช และ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดโครงการ “รถดิจิทัล กิจกรรมเพื่อสังคมในพื้นที่ห่างไกล” ในระหว่างปลายเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่โรงเรียนขนอมพิทยา ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการเรือธงที่หัวเว่ยดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา2 ปี เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาองค์ความรู้เทคโนโลยีในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย ในปีนี้ได้เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับไซเบอร์และพลังงานสะอาด พร้อมทั้งต่อยอดเรื่องพลังงานสะอาดและการอนุรักษ์ธรรมชาติให้แก่คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าสิ้นปี ฝึกอบรมความรู้ด้านดิจิทัลให้แก่นักเรียน ได้ถึง 3,000 คน
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การเร่งพัฒนาบุคลากรของประเทศถือเป็นหนึ่งในวาระสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งการสร้างบุคลากรทางดิจิทัลถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศ โครงการครั้งนี้สร้างความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งในเชิงทฤษฎีและปฎิบัติให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกและความรู้ในเรื่องพลังงานสะอาดและการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับเยาวชนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจะสามารถผลักดันบุคลากรให้ก้าวสู่การเป็นบุคลากรไอซีทีที่มีคุณภาพของประเทศไทยต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ซึ่งมีหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
พลอากาศตรีอมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ได้กล่าวถึงโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ว่าทุกวันนี้ไทยมีประชากรอินเตอร์เนตมากถึง 61.21 ล้านคน คิดเป็น 85.3% ของประชากรทั้งประเทศ ผู้คนใช้เวลาบนโลกออนไลน์และดิจิทัลสูงถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน และใช้ โมบายแบงก์กิ้ง ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ดังนั้น การให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของประเทศและเป็นสิ่งที่สกมช. กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการสร้างองค์ความรู้ให้กับเยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกลให้มีความพร้อมในการรับมือกับภัยบนโลกไซเบอร์ ทั้งด้านการป้องกันและการรับมือเมื่อเกิดเหตุ โครงการรถดิจิทัล กิจกรรมเพื่อสังคมในพื้นที่ห่างไกลซึ่งริเริ่มโดยหัวเว่ย ถือเป็นโครงการที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและองค์กรชั้นนำ ที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลรุ่นใหม่ของประเทศ และมุ่งสู่การสร้างบุคลากรไอซีทีคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานของไทยต่อไปในอนาคต
นายสุรชัย ฉัตรเฉลิมพันธุ์ ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนบุคคล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ข้อมูลว่า ไทยยังคงเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล การบ่มเพาะทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจึงถือกุญแจในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศ ซึ่งหัวเว่ย ประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเสมอภาคและยกระดับคุณภาพผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านโครงการต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการเรือธงอย่างรถดิจิทัลเพื่อสังคม โดยโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ในการส่งมอบองค์ความรู้พัฒนาทักษะ และผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่จะพัฒนาประชาชนในพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับองค์ความรู้อย่างเท่าเทียม ซึ่งหัวเว่ยมองว่าในปัจจุบัน ทักษะด้านเทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญที่ควรเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน รวมถึงต่อยอดการประยุกต์ไปสู่สายอาชีพของผู้เรียนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี