ชาวนาตำบลหนองปลาไหลเดือดร้อนไม่มีทางเข้าออกทำนา ต้องเช่าที่มูลนิธิเข้าออก เทศบาลปัดเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชนไม่เกี่ยวกับเทศบาล ในขณะที่หลายคนหวั่นอาชีพชาวนาที่เป็นที่สุดท้ายในเขตหนองปลาไหลจะหายออกจากพื้นที่

ชาวนาตำบลหนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าได้รับความเดือดร้อนจากที่ไม่สามารถเข้าทำนาในพื้นที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อน โดยมีชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนที่ทำอาชีพชาวนาประมาณ 300 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายของเขต ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง ภายหลังได้รับการร้องเรียนจึงเดินทางไปบริเวณ ม.1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง พร้อมด้วยนายสานุคุณ นวนประโคน ปลัดเทศบาลตำบลหนองปลาไหล นายสายัณห์ กล้อมอ้น สารวัตรกำนัน สมาชิกเทศบาลและชาวบ้านกว่า 30 คนลงพื้นที่ซึ่งเป็นที่นาประมาณ 300 ไร่

นางสมทรง ชลบุษย์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนและชาวบ้านกว่า 30 หลังคาเรือนที่มีอาชีพทำนาได้รับความเดือดร้อนจากที่โดนปิดที่ไม่สามารถเข้ามาทำนาได้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ใช้ทางเข้าออกซึ่งเป็นที่ของมูลนิธิแห่งหนึ่งในพัทยา ซึ่งก็ได้ใช้มานานแต่มาปีนี้ทางมูลนิธิไม่อนุญาตให้ใช้ทางซึ่งเป็นที่ของมูลนิธิจึงต้องส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุยกับทางมูลนิธิ ทางมูลนิธิได้คิดค่าเช่าที่ต้องใช้ทางผ่านปีละ 20,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านได้เรี่ยไรเงินจ่ายค่าเช่าเพื่อผ่านที่ดินกัน แต่บริเวณที่นาที่อยู่นั้นมีที่ดินสาธารณะ แต่ไม่สามารถใช้ได้เพราะเป็นทางน้ำจึงอยากให้ทางเทศบาลหนองปลาไหลช่วยทำทางให้ชาวบ้านในการทำนา ซึ่งทราบว่าโครงการทำถนนนี้อยู่ในโครงการพัฒนาของเทศบาลกว่า 10 ปีแต่ก็ไม่ได้มีการนำมาพูดคุยกันเลย

นายสายัณห์ กล้อมอ้น สารวัตรกำนัน กล่าวว่า ในทุกๆ ปีชาวบ้านก็ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากว่าไม่สามารถเข้ามาทำนาได้ตามปกติที่ผ่านมาสามารถใช้บริเวณมุมที่ดินนั้นใช้สัญจรได้แต่บริเวณนี้ก็ต้องเข้าในที่ของชาวบ้านเขาซึ่งเส้นทางสาธารณะเราก็ยังมีใช้อยู่แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถใช้ได้ โดยแผนพัฒนาของตำบลหนองปลาไหลในเส้นทางบ้านนายจรินทร์นี่ ก็เข้าแผนไว้เป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการให้มันแล้วเสร็จหรือว่าดำเนินการนับหนึ่ง ชาวบ้านก็ต้องได้รับความเดือดร้อน

เมื่อประมาณช่วงเดือนที่แล้วเจ้าของที่มาไม่ให้ชาวบ้านสัญจรทำให้เดือดร้อนหนักขึ้นอีกจนตกลงกันได้ว่าต้องเป็นการเช่าเป็นรายปีระยะเวลาหนึ่งปีในวงเงิน 20,000 บาท ชาวบ้านก็ช่วยกันออกเป็นจำนวน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งก็ขอให้เทศบาลชาวบ้านได้ได้รับความสะดวกในการทำนาเพื่อจะได้อนุรักษ์การทำนาไว้ครับเพราะว่ามีที่ตำบลหนองไหลก็มีจุดเดียวอยากให้คงอยู่ต่อไป

นายสานุคุณ นวนประโคน ปลัดเทศบาลตำบลหนองปลาไหล กล่าวว่า ที่ตรงนี้มันมีโครงการอยู่ในแผนแล้วแต่ที่ในส่วนของชาวบ้านเขาแสดงความเดือดร้อนมากขึ้นเพื่อที่จะเอาให้ในส่วนของจัดหางบประมาณเร่งการจัดหางบประมาณเพื่อลงมาทำ ในส่วนของโครงการต่างๆ มันก็ได้ทำมาตามแผน ซึ่งก็พูดถึงเรื่องของความเดือดร้อนโดยดูจากที่มีบ้านก่อนที่ทำมาหากิน ก็คงต้องดูในเรื่องความเดือดร้อน

สำหรับการแก้ปัญหาเราไม่สามารถไปดำเนินการอะไรได้เป็นเรื่องของบุคคลกับบุคคลคุยกันแต่ถามว่าส่วนราชการเราจะจะไปขออะไรไหมมันก็ได้แต่คุยแต่คุยก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าอยู่ที่การตัดสินใจของเอกชนกับเอกชน

สำหรับที่ทำนาที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นเป็นที่ทำนาพื้นสุดท้ายของเขตหนองปลาไหล ซึ่งหลายหน่วยงานพยายามที่จะอนุรักษ์พื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชน แต่ชาวนากลุ่มดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากการให้ที่ของมูลนิธิเข้าออกซึ่งต้องผ่านที่ของมูลนิธิประมาณ 30 เมตร ซึ่งถ้าไม่สามารถใช้ที่ของมูลนิธิก็ต้องใช้ที่สาธารณะซึ่งมีความยาวกว่า 1.5 กม.และทางบางส่วนก็เป็นพื้นที่น้ำไหล ตอนนี้ก็ใช้ที่คันนาของกลุ่มชาวบ้านด้วยกันในการเข้าออกในการทำนา ซึ่งอยากให้ทางเทศบาลหนองปลาไหลได้ลงมาช่วยแก้ไขโดยด่วน