"โกศลวัฒน์"อธิบดีอัยการ สคช.เผย อธ.อัยการภาค 6 เห็นชอบสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองยิงโจรตาย ปี 65 ชี้กฎหมายคุ้มครอง สุจริตชนป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือ สคช.เปิดเผยกรณีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 65 เกิดเหตุมีคนร้าย 4 คน บุกปล้นร้านทองที่ จ.ตาก ใช้ปืนยิงใส่ร้านและเครื่องมือตัดเหล็ก เข้าชิงทอง แต่ถูกเจ้าของร้านทองใช้ปืนยิงสวนถูกคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย จับได้ 1 ราย และหลบหนีอีก 2 ราย
โดยคนร้ายทั้ง 4 คน เข้ามาในร้านทอง มี 2 คน ได้ชักอาวุธปืนออกมายืนคุมเชิงหันหน้าไปทางหน้าร้าน คนร้ายอีกคนหนึ่งใช้เลื่อยตัดโครงเหล็กซึ่งครอบตู้ทองไว้ ไม่กี่วินาที เจ้าของร้านก็ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงขึ้นฟ้า เป็นผลให้คนร้ายทั้ง 4 คน วิ่งหลบหนีออกจากร้านทอง ไปยังรถ จยย.ที่จอดอยู่หน้าร้าน คนร้าย 2 คนแรกได้สตาร์ทรถและขับออกไป ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ซึ่งนั่งมากับ รถจยย.อีกคันหนึ่ง สตาร์ทรถไม่ติด ในระหว่างที่สตาร์ทรถนั้นคนร้ายคนที่ยืนหลังคนสตาร์ทรถได้ยิงปืนมาทางร้านทอง จากนั้นก็วิ่งหนีไป คงเหลือแต่คนร้ายที่ยังสตาร์ทรถไม่ติดคนเดียว เมื่อคนร้ายวิ่งหนีไปได้ไม่กี่วินาที คนร้ายซึ่งกำลังสตาร์ทรถ ก็ถูกเจ้าของร้านทองยิง และวิ่งหนีไป ล้มลงห่างจาก จยย.ประมาณ 10 เมตร
คดีนี้อัยการจังหวัดตาก และอธิบดีอัยการสำนักงานภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทอง ข้อหาหาผู้อื่นฯ เพราะเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายในการคุ้มครองประชาชน คุ้มครองสุจริตชน และสังคม
ตนในฐานะอธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ได้มองเห็นปัญหาสำคัญสำหรับประชาชน สุจริตชน ที่ไม่รู้กฎหมาย ย่อมอาจไม่เข้าใจถึงขอบเขตของการป้องกันตน ว่าควรป้องกันตนอย่างไรตามที่กฎหมายบัญญัติ จึงจะถือว่าไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย ขอย้ำนะครับว่าป้องกันสมควรแก่เหตุไม่ผิดกฎหมายเลย เหตุการณ์หลายครั้งที่เกิดขึ้นมีการป้องกันตนเกินสมควรกว่าเหตุก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอาญา ซึ่งเวลายื่นฟ้องมักจะถูกฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นข้อหาทำร้าย เท่าที่จำได้ไม่ปรากฏว่ามีการบรรยายฟ้องไปถึงการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้อง เจ้าของร้านทอง เพราะป้องกันตนสมควรแก่เหตุภยันตรายยังไม่หลุดพ้นไป จึงไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ โดยอัยการเคยสั่งไม่ฟ้อง กรณีที่ผู้เสียหาย ใช้สิทธิ์ป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุมาแล้วหลายคดี
ตนได้สอบถามไปยัง นายณรงค์ พิกุลทอง อัยการจังหวัดตาก ได้เล่าให้ฟังว่า คดีนี้ได้ตั้งคณะทำงาน และรายงานเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอาชญากรรมที่อุกอาจ ดำเนินคดีกับคนร้ายปล้นร้านทอง และสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทอง ซึ่งใช้สิทธิ์ป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุเจ้าของร้านทองจึงไม่ผิดฐานฆ่าคนร้ายตาย เสนอสำนวนให้อธิบดีอัยการสำนักงานภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองเห็นชอบตามอัยการจังหวัดและคณะทำงาน มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ทั้งนี้ คำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองที่ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนพอสมควรแก่เหตุนั้น เพราะภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป ย่อมเป็นคดีตัวอย่างให้เห็นถึงหลักประกันของความยุติธรรม ที่อัยการจะพิจารณาให้ความยุติธรรมคุ้มครองสิทธิ์ประชาชน คุ้มครองสุจริตชน และรักษากฎหมายให้มีประสิทธิภาพดำเนินคดีกับคนร้าย คุ้มครองสุจริตชนที่สามารถป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเองได้ โดยอัยการจะตรวจพยานหลักฐานในสำนวนโดยละเอียดละเอียด คดีนี้เจ้าของร้านทองได้รับประโยชน์จากภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เป็นวัตถุพยาน ยืนยันเหตุเหตุการณ์ต่างๆ จากภาพที่บันทึกไว้อย่างต่อเนื่อง แม้ยิงคนร้ายตายก็ถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นความผิดเลย กล้องบอกความจริง ความจริงให้ความยุติธรรมเสมอ ประชาชนสุจริตอาจไม่เข้าใจกฎหมายในเรื่องของการป้องกันได้ดีเหมือนคนที่เรียนกฎหมาย ในเหตุการณ์จริง ตกใจ กลัว ไม่มีเวลาคิด ก็ขอให้ศึกษาคดีนี้เป็นตัวอย่าง ร้านทองทุกร้าน สุจริตชน ขอให้สนใจศึกษาคดีนี้จากเหตุการณ์ที่เจ้าของร้านทองได้เล่าผ่านใน Facebook อัยการจะใช้กฎหมายคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนเสมอ ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ สำนักงานอัยการ ยังให้การคุ้มครองสิทธิ์ประชาชนเหมือนหลักประกันความยุติธรรมโดยมีระเบียบการร้องขอความเป็นธรรม ให้สิทธิ์ประชาชนยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมได้ในทุกระดับ ตั้งแต่อัยการจังหวัด อธิบดีอัยการภาค อัยการสูงสุด และตามระเบียบที่เมื่อประชาชนยื่นคำร้องแล้วอัยการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบการสั่งคดีร้องขอความเป็นธรรม เพื่อสร้างหลักประกันในการคุ้มครองสุจริตชนโดยสำนักงานอัยการสูงสุดอีกด้วย หากมีปัญหากฎหมายโปรดไปปรึกษาอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนใกล้บ้านท่าน มีถึงร่วม 120 สาขาทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วนอัยการ 1157
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี