“สมรักษ์ คำสิงห์” ตำนานฮีโร่มวยสากลเหรียญทองโอลิมปิก ยืนยันไม่ได้ฉุดกระชาก - ล่วงละเมิดทางเพศสาววัย 17 ปี ขณะที่ สภ.เมืองขอนแก่น ออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำแล้ว ด้าน“ธรรมนัส” สั่งนายทะเบียน พปชร.ตรวจสอบว่ายังเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ลั่นมีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ ต้องขับพ้นพรรค ส่วน “โฆษก พปชร.’เผยเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันเดินหน้าตามข้อบังคับพรรค หากพบผิดจริง พร้อมดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ความคืบหน้ากรณีหญิงสาววัย 17 ปี ชาว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ให้ดำเนินคดีกับ “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยสากลทีมชาติไทยเหรียญทองโอลิมปิก โดยกล่าวหาว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ หลังไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น กระทั่งถูกพาไปล่วงละเมิดทางเพศที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเวลาประมาณ 03.30 ของวันที่ 10 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ก่อนที่ “สมรักษ์” จะออกมายืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กสาวอายุเพิ่ง 17 ปี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายสมรักษ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เดินทางมาเที่ยวที่ขอนแก่น และได้เข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงจริง โดยมีคนมากหน้าหลายตามาขอถ่ายรูปคู่ด้วยซึ่งรวมถึงหญิงสาวรายดังกล่าว จากนั้นหญิงสาวรายนี้ได้นั่งดื่มกินด้วยกันในร้าน และได้บอกว่า มีอายุ 17 ปี มาจากกาฬสินธุ์ โดยได้บอกกับยายว่า จะมาสอบที่ขอนแก่น จากนั้นจึงชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ร้าน ซึ่งเมื่อได้ยินตนจึงบอกไปว่า ไม่เชื่อว่าเด็ก 17 ปี จะเข้าไปในร้านได้ เพราะเชื่อว่า ทางร้านมีมาตรการในการตรวจสอบนักท่องเที่ยวเข้าในร้าน ต้องอายุเกิน 20 ปี
จึงไม่คิดว่าเด็กสาวที่คุยด้วยอายุ 17 ปีตามที่บอกมา จึงปล่อยเลยตามเลย จนร้านปิด เด็กสาวบอกว่าจะไปด้วยและขอไปรอหน้าร้าน จากนั้นเมื่อตนออกมาหน้าร้าน ก็เจอหญิงสาวคนนั้นจริง และนั่งรถจักรยานยนต์ออกมาโดยฝ่ายหญิงนั่งกลาง ส่วนตนเองนั่งซ้อนท้ายคนที่สาม และพากันขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปที่โรงแรมที่พัก เมื่อถึงโรงแรมก็เดินขึ้นห้อง เมื่อถึงห้องก็กอดจูบกัน จึงถามย้ำกับหญิงสาวว่า อายุเท่าไหร่กันแน่ หญิงสาวตอบว่า 17 ปี
นายสมรักษ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อได้ยินคำตอบ จึงผละออกและบอกให้หญิงสาวนอนพักผ่อน และขอยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขืน ไม่ได้มีการสอดใส่ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว เพราะหญิงสาวแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น แต่ไม่หนักใจ ทุกอย่างอยู่บนความเป็นจริง ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกอย่างว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
“หลังจากจบเรื่องก็จะไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะเบื่อสังคมแบบนี้ และขอยืนยันว่าไม่ได้ฉุดกระชากหรือข่มขืนเด็กสาวอายุ 17 ปี ขณะนี้ตำรวจยังไม่เรียกตัวไปสอบสวน หากถูกเรียกตัวก็พร้อมให้ความร่วมมือไปให้ปากคำทุกเวลา ขอขอบคุณทุกคนทุกกำลังใจ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ ปล่อยเป็นเรื่องทนายความเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดแล้ว” นายสมรักษ์ กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดผยว่า คดีนี้ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุประมาณ 17 ปี 10 เดือน เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกนายสมรักษ์พาไปเพื่อทำอนาจาร พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับคำร้องทุกข์และสอบปากคำ เบื้องต้นแล้วสอบปากคำเพื่อนที่เป็นคนไปรับตัวของ น.ส.บี จากโรงแรมไว้เป็นพยานและพนักงานสอบสวน พร้อมกับทำหนังสือส่งตัว น.ส.บี ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อตรวจร่างกาย และแจ้งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของบนุษย์
รวมถึงส่งตัวผู้เสียหายไปพักที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น และประสานสหวิชาชีพพร้อมสอบสวนปากคำผู้เสียหายต่อหน้าสหวิชาชีพ แจ้งญาติให้มารับตัว ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น พร้อมให้ชุดสืบสวนออกเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมถึงสถานที่เกี่ยวข้อง รายงานการสืบสวน ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการล่วงละเมิดทางเพศ อีกส่วนคือการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ซึ่งในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ เด็กอายุ 17 ปีที่เข้าแจ้งความ อยู่ในความดูแลของทางบ้านพักเด็กและครอบครัวขอนแก่น ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบปากคำพร้อมทีมสหวิชาชีพ และจะได้สอบพยานเพิ่มเติมทั้งพนักงานที่ร้านและที่โรงแรม
“ในส่วนที่ผู้เสียหายอายุ 17 ปี เข้าไปใช้บริการภายในสถานบันเทิงนั้น ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในความผิดเกี่ยวกับสถานบริการที่ปรากฎในสำนวนการสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้เรียกผู้จัดการร้านมาสอบสวน และแจ้งข้อหายินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุ ต่ำกว่า 20 ปีบริบูณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่สถานบริการที่เด็กเข้าไปใช้บริการเรียบร้อยแล้ว” พ.ต.อ.ยศวัจน์ ระบุ
พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของนายสมรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหา จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน หากปรากฏหลักฐานแน่ชัดจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกหมายเรียกนายสมรักษ์ เข้าให้ปากคำแล้ว โดยนายสมรักษ์ ยืนยันว่าจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 12 ธ.ค. 2566 นี้
อนึ่ง ในช่วงเช้าของวันที่ 11 ธ.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” โพสต์ข้อความระบุว่า สมรักษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเขาก็มาเที่ยวของน้องเขา และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไร
พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น ซึ่งนายสมรักษ์ ยังยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว วันเกิดเหตุไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของ ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของตนด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับตน ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน
เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไร เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ปี ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นผมก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปผมตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็กเมล์ใคร ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก
ในวันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมรักษ์ คำสิงห์ ถูกแจ้งความ พาเด็กอายุ 17 ปี เข้าโรงแรม ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบในรายละเอียด แต่เท่าที่ติดตามข่าว ก็ไม่ต้องตรวจสอบอะไรแล้ว เพราะแค่พาไปโรงแรมก็น่าจะผิดแล้ว ตอนนี้มอบให้นายทะเบียนพรรค พปชร. ตรวจสอบว่ายังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่หรือไม่ หากยังเป็นอยู่ก็ต้องขับออก มีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ และพรรค พปชร.ก็มีข้อบังคับพรรคอยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องกระทำความผิดในลักษณะแบบนี้
ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา เขต 3 ในฐานะโฆษกพรรค พปชร.กล่าวถึงกรณีที่ นายสมรักษ์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดคดีอาญา ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเรื่องนี้ตามหลักการต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
“แต่ในส่วนของพรรค พปชร.ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อบังคับการพิจารณาความผิดของสมาชิกพรรค ซึ่งมีข้อบังคับและแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารจะดำเนินการพิจารณาและตัดสินต่อไป ในส่วนการกระทำความผิดกับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นคดีที่ถือว่ามีความร้ายแรงในด้านศีลธรรม และกฎหมายอาญา ทางพรรคพร้อมที่จะดำเนินการในขั้นเด็ดขาด เพราะพรรค พปชร.ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ผิดทางกฎหมายและศีลธรรม ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม” นายอรรถกร กล่าว
สำหรับประวัติของ สมรักษ์ คำสิงห์ เกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2516 เริ่มสร้างชื่อเสียงจากการชกมวยไทยโดยใช้ชื่อในการชกว่า “พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ” ก่อนถูกชักชวนให้หันไปชกมวยสากล และกลายเป็นนักมวยสากลคนแรกของประเทศไทย ที่คว้าเหรียญทองในรายการใหญ่ที่สุดอย่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี 2539 ที่เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น สมรักษ์ ยังรับราชการทหารอยู่กับกองทัพเรือ ชั้นยศสุดท้ายคือเรือเอก ก่อนจะลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 เพื่อไปลงเลือกตั้ง สส. ในนามพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับชัยชนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี