"เจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว" เมืองสองแควลมจับความดันขึ้นสูง หลังพระเพลิงเผาผลาญศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทยมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท พระลูกวัดบาดเจ็บ 2 รูป ศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญถูกเพลิงไหม้ไปด้วย
หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันนี้ (13 ธ.ค.66) เกิดเหตุเพลิงโหมลุกไหม้ ศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทย 2 ชั้นภายในวัดห้วยแก้ว เลขที่ 27/3 หมู่ 3 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ต่อมาเช้านี้บรรดาชาวบ้านในพื้นที่ต่างเดินทางมาดูจุดเกิดเหตุพร้อมกับให้กำลังใจพระครูสุนทรกิตติรัต หรือพระครูยูร เจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว และรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เป็นลมและความดันโลหิตขึ้นสูงจนญาติโยมต้องช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ทางตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุแต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากซากศาลาการเปรียญยังมีความร้อนที่ถูกเผาไหม้คุกกรุ่นอยู่ และมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนป้ายแดงพิษณุโลก ที่จอดอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรถูกไอร้อนจากเปลวเพลิงจนตัวรถเสียหายอีก 1 คันทำให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องเข้ามาเร่งระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อคลายความร้อนระอุให้หายไป
นายวรณัร วริศธราวุธ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานสำนักงานงานป้องกันเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญชั้นล่างถูกเพลิงไหม้ไปด้วยและมีกำหนดจากฌาปนกิจช่วงเย็นวันนี้ แต่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายนายได้เฝ้าระวังในจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เพลิงลุกลามขึ้นมาอีกรอบ
พระปลัดอคปญโญ รองเจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว เจ้าคณะตำบลสนามคลี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีพระลูกวัดบาดเจ็บ 2 รูปซึ่งเป็นพระที่นอนเฝ้าศาลาการเปรียญชั้นบนได้กระโดดลงมา หลังสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นควันไฟอย่างรุนแรง มีบาดแผลถูกสังกะสีบาดตามร่างกาย ขณะนี้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัยแล้ว
นายบุญญกร ภูมิดี กำนันตำบลบางกระทุ่ม กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุจึงรีบมาดูแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ แต่เนื่องจากศาลาการเปรียญทำด้วยไม้สักทั้งหลังจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเพียง 15 นาทีก็ไหม้ลุกลามวอดเสียหายทั้งหมด ขณะนี้ชาวบ้านทุกคนต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะสร้างมาจากจิตศรัทธาและเงินบริจาคของญาติโยมทุกคน วัดห้วยแก้วเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว อ.บางกระทุ่ม ทุกหมู่บ้านต่างเคยมาทำบุญกันที่วัดแห่งนี้ ส่วนแนวทางการบูรณะซ่อมแซมจะได้ปรึกษาหารือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง โดยได้รับรายงานจากนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก ลงพื้นที่และพร้อมนำเครื่องจักรกลปรับสภาพพื้นที่ของวัดห้วยแก้วต่อไป
สำหรับวัดห้วยแก้ว อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เป็นวัดเก่าแก่สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2466 ประชาชนร่วมใจกันจัดสร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลัง วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2529 จุดเด่นของวัดห้วยแก้วคือศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทย 2 ชั้น (หลังที่เพลิงไหม้) สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2551 บานประตูหน้าต่างแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ มีพระประธานบนศาลาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้ประดู่ ขนาดหน้าตัก 19 เมตรและแกะสลักจากไม้สักทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 1.5 เมตร ภายในศาลาแกะสลักด้วยลวดลายที่มีความสวยงามวิจิตรอลังการเป็นอย่างมาก คาดว่าเป็นศาลาไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ต่อมานายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกเดินทางสำรวจที่เกิดเหตุ พร้อมรับหนังสือขอเครื่องจักรเพื่อนำเครื่องจักรมาช่วยดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เพลิงไหม้วัดห้วยแก้ว อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลกต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี