เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวในการบรรยายเรื่อง “การใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ให้ปลอดภัยและมีความสุข” ภายในงานการสร้างความรับรู้เท่าทันภัยทางดิจิทัลและการคุ้มครองผู้บริโภค สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ณ สำนักงาน กสทช. ซอยสายลม กรุงเทพฯ แสดงความเป็นห่วงประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพประเภทหลอกให้รักแล้วให้โอนเงินหรือชวนลงทุน หรือ โรแมนซ์สแกม (Romance Scam) ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ง่ายในโลกปัจจุบันที่ชีวิตคนอยู่กับความเหงา
โดยมิจฉาชีพจะนิยมเล็งเหยื่อที่มีสามีหรือมีภรรยาแล้ว อาศัยการจับตาความเคลื่อนไหวของเป้าหมายบนสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งมีสามีแต่ไม่โพสต์ภาพสามี ชีวิตมีแต่ตนเองกับลูก หรือผู้ชายคนหนึ่งมีภรรยาแต่ไม่โพสต์ภาพภรรยา มีแต่ภาพตนเองไปตีกอล์ฟ แบบนี้คือความเหงากำลังได้ที่ มิจฉาชีพก็จะค่อยๆ คืบคลานเข้ามา หากเหยื่อเป็นชายก็เริ่มจากการกดไลค์รูปของเราบ้าง ส่งข้อความทักทายหรือชมบ้างจนเกิดความรู้สึกถึงหน้าตาเราไม่ดีแต่เสน่ห์คงได้อยู่ หรือหากเหยื่อเป็นหญิงมิจฉาชีพจะอดทนมาก ไม่ว่าเหยื่อจะพูดอะไรก็ล้วนถูกและพร้อมเข้าใจเสมอ
“มันกลายเป็นว่าโรแมนซ์สแกมที่มันจะแก้ยาก ติดแล้วหายยาก แล้วเชื่อเขาตลอดเพราะว่ามันจะเติมเต็มสารโดปามีนที่อยู่ในสมอง ท่านจะรู้สึกถวิลหา เขาหายไปกลายเป็นว่าฉันอยากจะตามหาเขาด้วยซ้ำว่าทำไมเงียบไป แล้วบางคนที่ผมรู้จัก เขาก็เป็นฝรั่งพัวพันโรแมนซ์สแกม คบหากันมาเรื่องๆ ไม่เคยขออะไรเลย จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งเดี๋ยวได้มรดกคุณยาย 20 ล้านบาท ใส่เงินสดมาเลย ตอนนี้ค้างอยู่ที่สุวรรณภูมิ ขอค่าเอาของออกแสนห้า เขามีสติดี โอนไป 7 หมื่นพอ” พล.อ.ต.อมร กล่าว
พล.อ.ต.อมร กล่าวต่อไปว่า ผู้เสียหายรายนี้โอนเงินไปแล้ว 7 หมื่นบาท สติก็มา ก็ไปแจ้งตำรวจบอกว่าสงสัยน่าจะถูกหลอก ซึ่งตำรวจก็รับแจ้งความเรียบร้อย แต่กลับมาบ้านเจอมิจฉาชีพชวนคุยต่อ บอกทำไมโอนมาน้อย โอนมายังไม่ครบ ผู้เสียหายก็บอกว่าอย่ามาหลอก แต่เมื่อผู้เสียหายยอมคุยกับมิจฉาชีพไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็โอนไปให้อีก 8 หมื่นบาท บอกเดี๋ยวไม่ครบ 150,000 บาท เท่าที่ทราบคือผ่านไป 1 ปี มิจฉาชีพเปลี่ยนไป 3 บัญชีแล้ว แต่ผู้เสียหายก็ยังคุยกับมิจฉาชีพอยู่ เพราะรู้สึกมีความสุข เหมือนเป็นหลุมในใจบางอย่างที่อย่างอื่นเติมชีวิตให้ไม่ได้
นอกจากนั้น การที่มิจฉาชีพเล็งเหยื่อที่มีคู่ครองแล้ว เพราะแม้เหยื่อจะรู้ตัวว่าถูกหลอกแต่ก็มีแนวโน้มที่จะไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวคู่สมรสจะรู้ ถึงจะเป็นเพียงความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ก็ตาม ตนจึงอยากฝากให้ทุกคนสังเกตตนเองดู มีใครที่คบหาเราในรูปแบบโรแมนซ์สแกมหรือไม่ ซึ่งอาจไม่ได้เริ่มต้นที่การคุยกันเพียงวันเดียวแล้วขอเงิน เพราะมิจฉาชีพจะจีบหลายคนพร้อมกัน มีการติดตามว่าคนนี้คุยถึงระดับไหนแล้ว ความรักใกล้สุกงอมหรือยัง หรือคนไหนคุยเรื่องอะไร เลี้ยงไว้จนกระทั่งรู้สึกอารมณ์เรากับเขาเชื่อมกันแล้วผ่านบัญชีออนไลน์ที่เขาสร้างขึ้นมา
“เริ่มรู้สึกว่าถ้าเขาหายไป เราเป็นคนทักเขาก่อน ความรู้สึกใช่มันเกิดแล้ว ความรักมันสุกงอมแล้วมันถึงจะเริ่มออกลายออกฤทธิ์ เพราะฉะนั้นตัวเราเองสังเกตตัวราก่อน แล้วถ้าจะให้ดี คนแปลกปลอมหน้าตาดีแค่ไหนก็ตามมาขอแอด (เป็นเพื่อน) เราต้องสังเกตเลยว่า ดูโปรไฟล์อย่างนี้แล้วไม่น่าจะรับ เพราะว่าเขาไม่น่าจะใช่คนที่อยากคบกับเรา หรือคนละระดับกันในเรื่องของความเข้าใจหรือความสนใจ” พล.อ.ต.อมร ระบุ
เลขาธิการ สกมช. ยังกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งการตัดสินใจที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือการดูว่าบัญชีสื่อออนไลน์ที่มาทักทายขอให้เรากดรับเป็นเพื่อนนั้นมีรายชื่อเพื่อนของเราที่รับเป็นเพื่อนอยู่แล้วก่อนหน้า เพราะมิจฉาชีพอาจใช้วิธีไปขอให้เพื่อนของเรากดรับเป็นเพื่อนเพื่อมาใช้หลอกเราก็ได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งไปเชื่อ เป็นเรื่องที่ตัวราต้องสังเกตเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี