"รรท.อธิบดี DSI" เตรียมเปิดชื่อนักการเมืองพัวพันหมูเถื่อน หลัง "ร.อ.ธรรมนัส" โยนกรอบเวลา 31 ธ.ค. //วันนี้DSI บุกตรวจค้นเอกสาร 2 ห้องเย็น จ.นครปฐม พบปิดตัวนาน 3-4 เดือน อ้างทำกิจการขายชิ้นส่วนไก่ ยันไม่เกี่ยวข้องรับฝากแช่หมูเถื่อน
จากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินคดีพิเศษที่ 59/2566 ขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ หรือคดีหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ สามารถจับกุมและเเจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาแล้ว ได้แก่ กลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน 12 ราย กลุ่มนายทุน 2 ราย กลุ่มบริษัทห้องเย็น 2 แห่ง พร้อมกันนี้ ได้ขยายผลสืบสวนสอบสวนเตรียมรับขบวนการองค์กรอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร(สุกร) ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่กลุ่มใหม่ เป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษ หลังพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง เข้ามาพัวพันกับการลักลอบนำเข้าตู้หมูเถื่อนในช่วงปี 2564 จำนวนกว่า 10,000 ตู้ เงินหมุนเวียนมากกว่า 7,000 ล้านบาท รวมถึงยังขยายผลพบว่ามี 3 บริษัทชิปปิ้งเอกชนใช้บริการเอเยนต์ในการอำพรางเส้นทางการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีนั้น
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีDSI นำกำลังคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันเข้าตรวจค้น 2 พื้นที่เป้าหมายบริษัทห้องเย็นขนาดใหญ่ ใน จ.นครปฐม
โดยเวลา 10.00 น. คณะพนักงานสอบสวนเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายที่ 1 บริษัท แถวต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งบรรยากาศเมื่อมาถึงไม่ปรากฏกลุ่มพนักงาน หรือการดำเนินกิจการ คล้ายปิดทำการ เนื่องจากบริเวณป้อมยามไม่พบบุคคลใด พบเพียงสมุดบันทึกลงรายชื่อการเข้าเวรยาม และเมื่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปยังบริเวณโกดังด้านใน พบกับพนักงานชาย 1 ราย จากนั้นจึงมีรถยนต์โตโยต้า ขับเข้ามาจอดยังอาคารด้านใน และปรากฏเป็นชายรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นผู้จัดการบริษัทห้องเย็น ได้พาพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เดินตรวจอาคารภายในบริษัท และมอบพยานเอกสาร เบื้องต้นระบุว่า บริษัทแห่งนี้ได้ปิดทำการมานาน 3 เดือนแล้ว เพราะไม่มีสินค้าเข้ามา
ต่อมาเวลา 10.30 น. คณะพนักงานสอบสวน เดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายที่ 2 บริษัท แถว ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นจากพนักงานว่าบริษัทได้ปิดทำการ 2 เดือน โดยประกอบกิจการทำทุเรียนแปรรูป แต่เพราะหมดหน้าทุเรียน จึงไม่ได้ดำเนินการต่อ และยืนยันว่าไม่เคยทำกิจการเกี่ยวกับชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง ทำเพียงกิจการค้าขายชิ้นส่วนไก่ (ประเภทอกไก่)
ด้าน พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบ สวนทำการตรวจค้น ซึ่งมาจากการขยายผลถึงผู้นำเข้าเดิม จำนวน 161 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และเราก็ได้มีการตรวจสอบย้อนหลังไปยังปี 2564 พบว่าไม่ได้มีเพียง 161 ตู้ แต่มีการนำเข้าถึง 2,388 ตู้ ที่ถูกกระจายมาฝากแช่ยังบริษัทห้องเย็นต่างๆ อีกทั้งเรายังได้ข้อมูลจากพยานที่ให้การว่ามีผู้ที่รับดำเนินการเคลียร์ให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและข้าราชการฝ่ายการเมืองด้วย วันนี้จึงมาตรวจค้นห้องเย็นสองแห่ง เพื่อขยายผลนำไปสู่การดำเนินคดีกับบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง โดยเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดก็ตาม เราจะดำเนินการทางคดีทั้งหมดโดยไม่มีการละเว้น
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ดีเอสไอเน้นหาความเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่อยู่เบื้องหลังและอยู่สูงกว่าผู้นำเข้า เป็นตัวต้นเหตุหรือระดับนโยบาย และเราจะร่วมกับ ปปง. ในการขยายผลเรื่องเส้นเงิน เพราะบุคคลระดับสูงคงไม่ดำเนินการด้วยตัวเอง แต่มักจะให้คนใกล้ชิดดำเนินการแทน และไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายการเมืองหรือข้าราชการระดับสูง เราจะดำเนินการทั้งหมด ส่วนกรณีที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีการระบุว่าในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค. ทางดีเอสไอจะมีการเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง ก็อาจจะอยู่ในกรอบระยะเวลานั้น
ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า จากการที่เราได้ขยายผลในการสอบปากคำเจ้าหน้าที่รัฐและบริษัทชิปปิ้งเอกชน รวมถึงพยานสำคัญหลายราย พบว่ามีการนำเข้าตู้คอนเทเนอร์ซึ่งภายในบรรจุสินค้าแช่แข็ง ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรปรา การ และจังหวัดเพชรบุรี ได้มีบริษัทที่ถูกดีเอสไอจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ อย่างน้อย 2 บริษัท ได้มีการส่งตู้คอนเทเนอร์มาในพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งจากการให้ถ้อยคำของพยานพบว่ามีการนำเข้าสินค้าแช่แข็ง (ประเภทไก่) โดยเป็นกลุ่มเดียวกับที่มีการนำเข้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งเหมือนกัน และ บริษัททั้งสองแห่งนี้ก็ได้หยุดดำเนินการธุรกิจเรื่องชิ้นส่วนไก่ไปแล้ว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็ไม่พบเงินหมุนเวียนในการทำกิจการเรื่องไก่
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ดีเอสไอยังพบว่าทั้งสองบริษัทยังมีความเกี่ยวข้องกับคนจีนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคนจีนกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับข้าราชการประจำหน่วยงาน และข้าราชการฝ่ายการเมือง โดยมีพฤติการณ์การสั่งสินค้าประเภทไก่เข้ามาในไทย ก่อนสวมสิทธิ์สินค้าไปขายที่ประเทศจีน ด้วยการสำแดงเท็จเป็นปลาแช่แข็งและพลาสติกพอลิเมอร์ ซึ่งมีสองบริษัทที่เราดำเนินการอยู่ในคดีพิเศษ 161 ตู้ ก็ได้อ้างว่าสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าพอลิเมอร์ และยังเคยถูกจับกุมที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อปี 2565 ก่อนพบว่าสินค้าเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง เราจึงมาขยายผล นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้อง เพราะเราตรวจพบจากพยานเอกสารและข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง และยังมีพยานที่เคยอยู่ในขบวนการเหล่านี้เข้ามาให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน จึงเป็นสาเหตุที่เรารวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลอาญา เข้าตรวจค้น 2 พื้นที่เป้าหมายในวันนี้ เพื่อขยายผลต่อไป
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า บริษัทที่เคยถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เคยได้มีการส่งตู้คอนเทเนอร์มายังบริษัทแห่งนี้ ซึ่งสายลับของดีเอสไอบอกว่ามีการนำเข้าตู้คอนเทเนอร์และได้นำพักที่นี่ ก่อนส่งต่อไปยังอีกบริษัทหนึ่ง โดยเกี่ยวข้องกับขบวนการหมูเถื่อนทั้งหมด ทั้งกลุ่ม 161 ตู้ 2,388 ตู้ และ 10,000 ตู้ ก่อนกระจายไปยังห้องเย็นต่างๆ ส่วนหน้าที่ของสองห้องเย็นที่เราเข้าตรวจค้นวันนี้มีหน้าที่เป็นคนกลางในการรวบรวมไก่จากหลายๆที่ แล้วส่งต่อไปยังบริษัท ก่อนส่งออกไปจำหน่ายที่จีน ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำกิจการทั้งหมูและไก่ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่บริษัท แห่งนี้หยุดให้บริการทางพนักงานระบุว่า เพราะไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในการไปซื้อไก่ จึงปิดตัวลง และไม่ได้ส่งขาย ก็ต้องหยุดดำเนินการเช่นกัน หยุดนาน 3 เดือนแล้ว
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนการทำกิจการเกี่ยวกับชิ้นส่วนไก่ที่ผ่านมา พบว่า บริษัทแห่งนี้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 - 2565 และหยุดส่งขายให้อีกบริษัท เมื่อช่วงต้นปี 2566 ส่วนเครื่องจักรกลภายในบริษัท ที่ยังเดินเครื่องอยู่เพราะกลัวเสีย จึงให้คนงาน 4-5 คนคอยดูแล ส่วนบริษัท ยืนยันว่าทำกิจการเกี่ยวกับไก่เท่านั้น แต่กลุ่มที่ส่งไก่มายังบริษัทนี้ดันเป็นกลุ่มที่ทำเกี่ยวกับหมูเถื่อน ส่วนการตรวจค้นที่บริษัท ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้น คาดว่าจะเจอเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจในช่วงปี 64-65
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า ทาง ปปง. ได้มีการส่งรายงานเส้นทางการเงินมายังดีเอสไอ พบว่ามีการโอนเงินระหว่างกันของกลุ่มนี้ทั้งหมด ทั้งกลุ่มชิปปิ้งเอกชนและเจ้าของห้องเย็น จำนวนหลักล้านบาท ช่วงปลายปี 2563 - 2565 ส่วนจะไปเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และธุรกิจตีนไก่นี้จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเรื่องเข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบหรือไม่ ก็ยังอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ ในวันนี้เรายังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดเจ้าของห้องเย็นทั้งสองแห่ง เพียงแค่เข้าตรวจค้นเอกสารสำหรับนำไปขยายผลทางคดีเท่านั้น เพื่อดูว่าเอกสารการซื้อขายไก่ถูกต้องหรือไม่ และนำเข้าจากประเทศต้นทางใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี