แกะรอยมือสังหาร 2 ศพสยองคาปั๊ม พบเบอร์ปริศนาโทรเข้ามือถือสาวใหญ่ เป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่น เพิ่งขายที่ดินได้เงินเกือบ 10 ล้านบาท
คืบหน้าคดีนายพมจัก สีสุพา หรือเซล อายุ 33 ปี ชาวลาวแขวงบอลิคำไซย สปป.ลาว พร้อมด้วย นางสาววิชชุดา ศรีสุมิ่ง หรือนัน อายุ 50 ปี ชาวบ้านดอนม่วง หมู่ 9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ทั้งคู่เป็นพนักงานหน้าลานปั๊มน้ำมันบริษัทไทยแหลมทอง ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 22 สายนครพนม-สกลนคร ฝั่งขาออกเมือง ต.บ้านผึ้ง หมู่ 1 อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งถูกคนร้ายบุกสังหารโหดเสียชีวิตอยู่หน้าออฟฟิศในปั๊ม เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังปิดปั๊มน้ำมันในเวลา 21.00 น.ของทุกวัน ตามที่เสนอข่วไปแล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร่งสอบปม'บิลน้ำมันผี'โยงสังหารสองเด็กปั๊มไทย-ลาวเชื่อฆาตกรรู้จักผู้ตายดี)
ภายหลัง พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ระดมทีมสืบสวนลงพื้นที่ เร่งสอบสวนพยานแวดล้อม แต่ยังไม่พบหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุ รวมถึงไม่พบภาพจากวงจรปิด เนื่องจากกล้องในปั๊มไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ยังรอผลชันสูตรศพอีกครั้ง โดยอยู่ระหว่างส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น
สำหรับประเด็นปมสังหาร มีสาเหตุจูงใจอะไรที่ทำให้คนร้ายลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งตำรวจยังไม่ทิ้งปมเหตุเกิดจากชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย ตัดเพียงประเด็นชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินยังอยู่ครบ รวมทั้งไม่มีร่องรอยการรื้อค้นในออฟฟิศ
จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว เพื่อสอบถามข้อมูลและหาเบาะแสในพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงละแวกใกล้เคียง พบว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ริมถนน นับจากทางออกเมืองมุ่งไปยังสกลนคร เริ่มที่ทางสามแยกเข้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม 1 จุด บ้านโนนขาม ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม ก่อนถึงทางแยกสนามบิน 1 จุด และตรงสามแยกสนามบินอีก 1 จุด กล้องทุกตัวทำงานปกติ ปัญหาคือถ้าคนร้ายหลังก่อเหตุ ไม่ได้หลบหนีไปทางเข้าเมืองนครพนม แต่กลับหลบหนีไปทาง จ.สกลนคร กล้องวงจรปิดตามรายทางแทบไม่มีเลย
สำหรับปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ห่างจากบ้านผู้ตาย คือ นางนันประมาณ 3 กิโลเมตร พบเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านเสริมสวย ที่อยู่ภายในหมู่บ้านดอนม่วง ขณะผู้ตายขับรถ จยย.ออกจากบ้าน เพื่อนำขนมจีนมาส่งลูกค้าตามออเดอร์ จากนั้นก็ไปทำงานที่ปั๊ม เนื่องจากเข้าทำงานกะบ่าย ตั้งแต่ 13.00-21.00 น.ของทุกวัน และทำงานคู่กับนายเซลคนตายอีกราย ส่วนกล้องตามจุดต่างๆ ไม่พบข้อมูลเบาะแส
นอกจากนี้ทางญาติยังค้างใจว่า กล้องวงจรปิดในปั๊มทั้ง 13 ตัว ไม่สามารถใช้งานได้แม้แต่ตัวเดียว ทั้งนี้จากการสอบถามข้อมูลเจ้าของปั๊มน้ำมัน ระบุว่าตั้งแต่ติดตั้งไว้ ก็ไม่เคยสนใจและไม่รู้ว่าแต่ไม่สามารถใช้งานได้ อยู่ระหว่างตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุ
ด้านป้านิ้ม อายุ 51 ปี พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า นางนันน้องสาว เคยมีครอบครัว มีลูก 2 คนเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และหย่าร้างกับสามีนานกว่า 20 ปี โดยลูกชายไปทำงานอยู่ กทม. ส่วนลูกสาวทำงานจิวเวอร์รี่อยู่ในนครพนม จึงอาศัยอยู่ด้วยกับลูกเขย ลูกสาว และหลานสาววัย 8 ขวบ ป้านิ้ม เล่าต่อว่า น้องสาวหลังหย่ากับสามีก็ไม่เคยคบหาใครมาก่อน ทางญาติจึงยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องปมชู้สาว แต่ยอมรับไม่รู้เรื่องส่วนตัวเชิงลึก
นอกจากนี้ ในส่วนของภาระหนี้สิน หรืออาจมีปัญหากับนายทุนหนี้นอกระบบ ทางญาติยืนยันไม่มี มีเพียงแต่หนี้ธนาคาร ธกส.ประมาณ 1 แสนบาท ผ่อนรายปี ไม่เคยมีปัญหา และไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองนครพนม ภายหลังลาออกมาทำงานที่ปั๊มแห่งนี้ได้ประมาณ 2 เดือนเศษ เพราะอยู่ใกล้บ้าน หลังเกิดเหตุทางญาติยอมรับไม่มีเบาะแสปมสาเหตุ ที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต อยากให้ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนที่นางนันจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 29 ธค. ขณะนั่งคุยอยู่กับญาติที่หน้าบ้าน ปรากฏว่ามีสายเรียกเข้ามา 2 ครั้ง พี่สาวจึงบอกให้นางนันรับสาย แต่น้องสาวไม่ยอมรับแต่พูดว่าสงสัยจะเมา ซึ่งจากการตรวจสอบสายปริศนานี้ พบว่าเป็นของอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง อายุประมาณ 80 ปีที่เพิ่งขายที่ได้เงินมาประมาณ 10 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี