"ลูกชาย"คาใจคดีพ่อถูกรถชนเสียชีวิต หอบรูปบิดาเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ผกก.สภ.หนองฮี พร้อมขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ด้านจนท.ตำรวจยืนยันทำคดีอย่างตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว ด้านผกก.รับปากพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรียกสำนวนมาดูใหม่ทั้งหมดใครถูกใครผิด
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ช่วงเวลากลางคืนได้เกิดอุบัติเหตุรถ จยย.กับ รถยนต์ปิกอัพ เฉี่ยวชนกันระหว่างถนนสี่แยกรอบหมู่บ้านหนองฮี - โพนทราย จนเป็นเหตุทำให้นายหนูจิน ศรีคำภา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 8 ตำบลดูกอึ่ง อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ดผู้ขับขี่รถ จยย. เสียชีวิต ต่อมาบุตรชายของผู้ตายชื่อนายชนะการณ์ ศรีคำภา อายุ 31 เป็นราษฎรอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลดอกรัก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดีเนื่องจากเห็นว่าคดีมีความล่าช่าเพราะว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุก็ได้ทราบจากชาวบ้านว่ารถยนต์ปิกอัพคู่กรณีก็ได้มีการนำรถออกมาขับขี่เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงได้สร้างความแปลกใจและข้อสงสัย กังขากับลูกชายและประชาชนทั่วไปที่พบเห็นประกอบกับรถ จยย.คันที่บิดาเป็นผู้ขับขี่ปัจจุบันก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเพื่อที่จะนำรถ จยย.ไปเก็บรักษาไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐาน
วันนี้ (9 มกราคม 2567) เวลาประมาณ 16.00 น.บุตรชายของผู้ตายได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือพร้อมกับนำภาพถ่ายของบิดาที่ประสบอุบัติเหตุมาร้องขอความเป็นธรรมและขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน จาก ผกก.สภ.หนองฮี เนื่องจากได้ทำการปรึกษากับญาติพี่น้องซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าที่ผ่านมาคดีไม่มีความคืบหน้าซึ่งเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในฐานะที่ตนเป็นบุตรและเป็นประชาชนจึงขอใช้สิทธิเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับบิดา และครอบครัวของตน เมื่อเดินขึ้นไปบนโรงพักก็ได้มีพนักงานสอบสวนเวรประจำวันได้เดินออกมาจากห้องสอบสวนเพื่อเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือแทน ผกก.สภ.หนองฮี โดยได้แจ้งกับนายชนะการณ์ฯว่าท่าน ผกก.ฯ เดินทางไปราชการที่ ภจว.รอ.
พร้อมกับได้ลงนามในหนังสือสำเนาเป็นหลักฐานการรับมอบหนังสือฯเพื่อจะได้ติดตามความคืบหน้าต่อไป และในเวลาต่อมาร้อยเวรสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าของคดี ก็ได้เดินทางมาพบกับนายชนะการณ์ฯ พร้อมกับได้แจ้งความคืบหน้าทางคดีซึ่งจับใจความได้ว่า ในวันเดียวกันนี้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ได้นำรถยนต์ปิกอัพและรถ จยย.คันคู่กรณีมาให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร้อยเอ็ดมาทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเป็นหลักฐานทางคดีเมื่อเสร็จสิ้นจากพิสูจน์หลักฐานแล้วจึงให้นำรถกลับไปส่วนทางคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็ได้มีการเรียกสอบปากคำพยานหมดแล้วเว้นแต่ยังไม่ได้สอบปากคำนายชนะการณ์ฯ ซึ่งเป็นบุตรชายเพราะไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ภายหลังทราบแล้ว ส่วนทางผู้ขับขี่รถยนต์ปิกอัพนั้นในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่ใดๆ ทั้งสิ้น
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเมื่อทราบว่าทางบุตรชายของผู้ตายร้องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคนใหม่ ตนก็พร้อมที่จะเปลี่ยนตัวกับพนักงานสอบสวนคนใหม่เนื่องจากทำดีที่สุดแล้วและตรงไปตรงมาแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา
ในเวลาต่อ ผกก.สภ.หนองฮี ก็ได้เดินทางกลับมาจากไปราชการในตัวเมืองร้อยเอ็ด นายชนะการณ์ฯ จึงได้เข้าไปขอความเป็นธรรมพร้อมกับได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม(สำเนา) ให้กับ พ.ต.อ.ธิติ สมศรี ผกก.สภ.หนองฮี หลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นผกก.หนองฮีได้รับปากกับนายชนะการณ์ฯ "ว่าตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยจะเรียกตรวจสำนวนพยานหลักฐานต่างๆตั้งแต่วันเกิดเหตุว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ฝ่ายใดผิด/ถูก ตามพยานหลักฐานและในส่วนทางคดีที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ของผู้ตายนั้นตนก็จะพิจารณาร่วมกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยยึดหลักคุณธรรม กับความถูกต้องเป็นหลัก.."ผกก.สภ.หนองฮี กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี