ชาวสุพรรณเฮ!ขอบคุณ'ดร.อุดม'ทีมงาน'บิ๊กท็อป'ยื่นฟ้องค่าเยียวยาน้ำท่วมหนักสำเร็จ
กรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 ได้มีกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มเกษตรกรด้านประมงจาก อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ (รมว.ทส.) ในสมัยนั้น ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ที่ปรึกษา เลขาธิการ ปปง.และที่ปรึกษา นายกสภาทนายความ หัวหน้าทีมทนายความ พร้อมทีมทนายความ ยื่นเรื่องศาลปกครองสุพรรณบุรี ฟ้องกรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเรียกค่าเสียหายจากการที่กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำโดยผิดพลาด ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงและน้ำท่วมขังในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนทั้งที่พักอาศัยและที่ทำกิน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ทำนา ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม 100% และส่วนใหญ่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว มีภาระหนี้สินจำนวนมาก คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 140 ล้านบาทเศษ โดยได้มีชาวบ้านกว่า 2 พันครอบครัวได้แสดงเจตนาที่จะยื่นฟ้องกรมชลประทานกับ ดร.อุดม และทีมทนายความ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ม.ค.67 ที่บริเวณหน้าศาลปกครอง จ.สุพรรณบุรี ดร.อุดม โปร่งฟ้า หัวหน้าทีมทนายความและกลุ่มทนายความที่ร่วมกันว่าความให้กลุ่มเกษตนกรชาวสุพรรณบุรี กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านต้องยื่นฟ้องกรมชลประทานกับพวกต่อศาลปกครองสุพรรณบุรีก็เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในปี 2564 เกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ที่กรมชลประทานได้ระบายน้ำเข้าสู่พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยไม่ยอมระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร แต่ปล่อยให้ชาวสุพรรณบุรีต้องได้รับความเดือดร้อนเสียหายเพียงจังหวัดเดียว
ที่สำคัญรัฐบาลให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่เสมอว่าเป็นห่วงชาวสุพรรณบุรีที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่กลับไม่มีมาตรการใดๆ ที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะเมื่อชาวบ้านทราบว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยหรือเยียวยาให้แก่ชาวบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรีเพียงเล็กน้อย ทั้งที่ชาวบ้านได้รับความเสียหายจริงมากกว่าเงินที่รัฐบาลจะจ่ายชดเชย ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้ จึงได้รวมตัวกันยื่นฟ้องกรมชลประทาน
ดร.อุดม กล่าวต่อว่า ไม่มีปรากฎการณ์น้ำท่วมใหญ่ของ จ.สุพรรณบุรี เท่าปี 2564 ซึ่งมีผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง และลามมาถึงในเขต อ.เมืองสุพรรณบุรี และอีกหลายพื้นที่เรียกว่าเป็นทุ่งทะเลก็ว่าได้ ตนและนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะนั้นในบินตรวจดูเห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มทำนา ทำการเกษตร ประมง จึงมีมติในนามพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็คือต้องฟ้องกรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหาย และการชดเชยเยียวยาต่างๆ ต้องได้รับความเป็นธรรมด้วย ให้พอเพียงกับที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่เราได้มีการฟ้องร้องที่ศาลปกครองสุพรรณบุรี จำนวน 553 คดีและเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสุพรรณบุรี ได้มีคำพิพากษาในชุดแรกออกแล้วทั้งหมด 36 คดี ซึ่งให้รัฐบาลโดยเฉพาะกรมชลประทานนั้นเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มอีก 30 เปอร์เซนต์ จากที่ได้มีการเยียวยาแล้ว ซึ่งเดิมทีได้รับการเยียวยาไร่ละ 11,780 บาท ศาลปกครองให้ชำระอีก 30 เปอร์เซ็นต์ จะได้เพิ่มอีกละประมาณ 4,000 บาท
ถือว่าวันนี้เราประสบความสำเร็จในส่วนหนึ่ง ชาวบ้านดีใจกันมาก ทีมงานและพี่น้องประชาชนก็เฝ้ารอวันนี้ว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษาอย่างไร ต่อไปก็จะเป็นมาตรฐานว่าเมื่อปล่อยน้ำมาในทุ่งรับน้ำ รัฐบาลต้องเยียวยาให้ประชาชนขั้นต่ำอย่างน้อยไร่ละ 16,000 บาท แต่ถ้าความเสียหายมากกว่านั้นทางฝ่ายกฎหมายเรากำลังพิจารณาว่า เรื่องของการที่เราขาดโอกาส ขาดรายได้ต่างๆ ซึ่งศาลปกครองยังไม่ได้ให้เรา อาจจะต้องขอความเมตตาจากศาลปกครองสูงสุดในการพิจารณาในส่วนนี้ เพราะพี่น้องประชาชนเราเดือดร้อนจริงๆ และขอให้ได้รับตามความเป็นจริง
ด้านนายมานิตย์ พุทธจรรยา เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง ชาว ต.องค์รักษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ต้องขอแสดงความขอบคุณ ดร.อุดม และทีมทนายความ ในฐานะตัวแทนของ นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ช่วยดำเนินการผลักดันให้เกษตรกรได้รับเงินเยียวยาที่สมเหตุสมผล ทำให้ชาวบ้านมีความสุขมาก หลังจากที่รอศาลปกครองพิจารณามาตั้งแต่ปี 2564 วันนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ถ้าไม่ได้ทีมงานของนายวราวุธ ลำพังชาวบ้านเอง คงจะไม่สามารถฟ้องร้องได้สำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าต่อไปจะเป็นมาตรฐานของกรมชลประทาน ที่จะปล่อยน้ำให้เราตามกำหนด ไม่ใช่ปล่อยให้น้ำท่วมแบบไม่ทันตั้งตัวแบบปี 2564 ที่ผ่านมา - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี