กทม.แนะรับวัคซีนโควิดประจำปี ป้องกันติดเชื้อ ก่อนช่วงระบาดฤดูฝน
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวถึงสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ตั้งแต่วันที่1-11 ม.ค.2567 มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 9,843 คน เป็นคนไทย 9,630 คนต่างชาติ 213 คน ส่วนใหญ่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก ทั้งนี้ สำนักอนามัย (สนอ.)ได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องในศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง ทุกวันพุธ ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. และได้ประสานให้อาสาสมัครสาธารณสุขและพยาบาลเยี่ยมบ้าน สำรวจผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนประจำปี หรือยังได้รับวัคซีนไม่ครบตามกำหนดให้มารับวัคซีนโดยเร็ว ทั้งนี้ แนะนำให้ฉีดวัคซีนประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ก่อนฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าเชื้อจะระบาดมากในช่วงฤดูฝน โดยใช้วัคซีนชนิดใด รุ่นใดก็ได้ โดยเว้นระยะห่างจากเข็มสุดท้าย หรือจากประวัติการติดเชื้อครั้งสุดท้ายประมาณ 3 เดือน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง (กลุ่ม 608 และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี) กลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสแพร่เชื้อ (พนักงานบริการหรือผู้ที่มีอาชีพต้องสัมผัสคนจำนวนมาก หรืออยู่ในสถานที่แออัด) กลุ่มผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า เพื่อลดอาการป่วยหนัก เสียชีวิต และรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศก่อนการระบาดของโควิด-19 ตามฤดูกาล ส่วนประชาชนทั่วไปที่ต้องการลดความเสี่ยงการติดเชื้อสามารถรับวัคซีนได้เช่นเดียวกันตามความสมัครใจ
อย่างไรก็ดี มาตรการส่วนบุคคลยังเป็นปัจจัยหลักในการป้องกัน ได้แก่ การล้างมือบ่อยๆ และการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ อยู่ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 และเด็กเล็ก และเมื่ออยู่ในพื้นที่ หรือกิจกรรมเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและรับเชื้อ ป้องกันการติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ
นอกจากนั้น ยังได้เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข วัคซีน ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น รวมถึงระบบการส่งต่อหากประชาชนตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ATK) พบว่า ติดเชื้อโควิด (SARS-CoV-2) จะแบ่งการรักษาเป็นกลุ่มที่ 1 ไม่มีอาการ รักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือรับยาแล้วกลับไปพักรักษาตัวในที่พักอาศัย ไม่ต้องรับยาต้านไวรัส ปฏิบัติตามมาตรการ DMH เว้นระยะห่างระหว่างกัน, สวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างน้อย5 วัน นับจากวันที่มีอาการ กลุ่มที่ 2 มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง รักษาแบบผู้ป่วยนอกตามอาการและดุลพินิจของแพทย์ ปฏิบัติตามมาตรการ DMH อย่างน้อย 5 วัน
ประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ติดเชื้อโควิดสามารถรับบริการผ่าน 4 แอปพลิเคชั่น1.Clicknic (คลิกนิก) https://forms.gle/hfo2Wr9jdvybn8d57รับผู้ป่วยโควิด อาการสีเขียวและเหลือง รวมถึงกลุ่ม 608 ให้บริการทั่วประเทศ2.Totale Telemed (โททอลเล่ เทเลเมด) https://lin.ee/a1lHjXZnรับผู้ป่วยโควิดทุกประเภท ให้บริการทั่วประเทศ 3.MorDee (หมอดี)https://form.typeform.com/to/cNKqNz3p รับผู้ป่วยโควิด เฉพาะกลุ่มสีเขียวให้บริการทั่วประเทศ และ 4.Saluber MD www.telemed.salubermdthai.com รับผู้ป่วยโควิดเฉพาะกลุ่มสีเขียว ให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด ส่วนผู้มีสิทธิเบิกราชการ หรือประกันสังคมให้ไปรับยาได้ที่สถานพยาบาลที่มีสิทธิอยู่ ซึ่งนอกจากพบแพทย์ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยแล้ว ยังมีการจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยด้วย
สำหรับกลุ่มที่ 3 มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง หรือกลุ่มที่มีปอดอักเสบ แต่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน พิจารณาตามอาการของผู้ป่วยโดยแพทย์ อาจรักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือรับไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาต้านไวรัสเร็วที่สุด และ กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบ ต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน รับรักษาไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาต้านไวรัสเร็วที่สุด ร่วมกับยาแก้อักเสบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี