ฝุ่นPM2.5วิกฤต
17จว.เกินเกณฑ์
สมุทรสาครที่1
กทม.33จุดอ่วม
ค่าฝุ่น PM2.5 ยังวิกฤต โดย 17 จว.วัดได้เกินเกณฑ์มาตรฐานระดับสีแดง มี 3 จว.สูงสุดของประเทศ คือ “สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-นครปฐม” อีก 28 จว.ระดับสีส้มส่วนกทม.33พื้นที่แดงเถือกกระทบสุขภาพ โดย3เขตพีค“หนองแขม-บางกอกใหญ่-ทวีวัฒนา”ส่วน17พื้นที่อยู่ระดับสีส้ม เตือนประชาชนลดเวลาทำกิจกรรมนอกบ้าน ใส่หน้ากากอนามัย
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 18 มกราคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า (GISTDA) ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ประจำวัน ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอพพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น”พบว่า 17 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง โดย 3 จังหวัดที่วัดค่าฝุ่นได้สูงสุดอันดับแรก คือ สมุทรสาคร 131.7 ไมโครกรัม (มคก.) สมุทรสงคราม 124.8 มคก.และนครปฐม 105 มคก.และพบอีก 28 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม
ขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดงพบถึง 33 พื้นที่ โดย 3 อันดับแรกคือ หนองแขม 119 มคก. บางกอกใหญ่ 100.2 มคก.และทวีวัฒนา 99 มคก. ในส่วน 17 เขตที่เหลือยังคงมีค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ด้วยว่า หลายพื้นที่มีค่าคุณภาพอากาศยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม
ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 17 มกราคม พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 221 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 70 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 49 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 37 จุด ชุมชนและอื่น 32 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 27 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด และ โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ชลบุรี 22 จุด ลพบุรี 15 จุด และขอนแก่น 13 จุด
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่ กัมพูชา 1,174 จุด ตามด้วยเมียนมา 328 จุด ลาว 100 จุดและเวียดนาม 72 จุด ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมา โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ
วันเดียวกัน เพจกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อมูลระบุศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 วันที่ 18 มกราคม เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 33.3-59.7 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 45.5 มคก./ลบ.ม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมมีข้อแนะนำสุขภาพ ระบุ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้ประชาชนใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ทั้งนี้ คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM 2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยาระหว่างวันนี้ จนถึงวันที่ 26 มกราคม การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน ถึงวันที่ 19 มกราคม เกิดภาวะอากาศค่อนข้างปิดใกล้ผิวพื้น ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองค่อนข้างทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการระบายอากาศเป็นไปได้อย่างจำกัด สำหรับช่วงวันที่ 20-24 มกราคม การระบายอากาศเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้การสะสมฝุ่นละอองมีแนวโน้มได้ในระยะสั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี