‘สายไหมต้องรอด-กล้าที่จะก้าว’เยือนถิ่น‘แก๊งทรายทอง นนทบุรี’ หลังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างหนัก ‘เอกภพ’ลั่นถ้าตำรวจจัดการไม่ได้ ให้ย้ายไปอยู่พื้นที่ไม่มีคดีอาชญากรรม ทำคดีหมากัดไก่
21 มกราคม 2567 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านทรายทอง ที่รวมพลของ “แก๊งทรายทอง นนทบุรี” เพื่อดูจุดเกิดเหตุที่ “ตี๋ ท่าทราย” หัวหน้าแก๊ง ชอบอุ้มเด็กและชาวบ้านในพื้นที่มารุมทำร้าย และพาผู้หญิงมารุมโทรม ตามที่ชาวบ้านให้ข้อมูล ซึ่งวันนี้มีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหายที่เคยถูกแก๊งทรายทอง นนทบุรี รุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส มาร้องทุกข์เพิ่มเติมเนื่องจากแจ้งความคดีไม่คืบหน้า (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แม่พาลูกร้องโดน'แก๊งท่าทราย'รุมตีจนดั้งหัก แถมขู่จะเผาบ้าน ผวาซ้ำรอยก๊วนลูกตำรวจ)
นายเอ เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มแก๊งทรายทองมาก่อน ส่วนใหญ่มักจะรวมตัวกันเพื่อออกไปไล่ตีคนอื่น โดยที่แก๊งนี้จะมีสมาชิกมากกว่า 100 คน มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่อายุ 13 ถึง 21 ปี มีทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่จะเลือกบุคคลที่มีการแต่งกายลักษณะคล้ายเด็กช่าง สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ จากนั้นก็จะเข้าโจมตีทันที ซึ่งแก๊งนี้จะมีอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นมีด ปืนซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเองโดยดูวิธีการทำจาก YouTube
นายเอ เปิดเผยอีกว่า ย้อนกลับไปในวันที่เกิดเหตุ 2 เดือนที่แล้ว ได้มีการออกไปไล่ตีคนอื่นเหมือนเช่นเคย แต่ในวันนั้นถูกตำรวจจับ แต่ตนรอด เนื่องจากไม่มีอาวุธในตัว จากนั้นทำให้แก๊งนี้เข้าใจว่าตนโยนความผิดให้กับเพื่อนและรุ่นพี่ จากนั้นไม่นานก็ได้ถูกกลุ่มนี้ทำร้ายร่างกาย โดยมากันทั้งหมด 3 คน บริเวณริมถนนซอยสามัคคี 6 ซึ่งตอนนั้นตนกำลังจะเข้าไปหารุ่นพี่ที่สุเหร่า แต่โดนเอาไม้กอล์ฟกระหน่ำตีเข้าที่หัวและแขน จากนั้นใช้มีดฟันเข้าที่หลังและหัว หลังจากถูกทำร้ายตนได้พยายามเอาชีวิตรอด ด้วยการเข้าไปในร้านค้าสะดวกซื้อ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ คนที่ทำร้ายร่างกายคือนายตี๋ และนายเบื้อง แต่ไม่ใช่หัวหน้าแก๊ง ซึ่งหัวหน้าแก๊งเป็นใคร ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน หลังจากถูกทำร้ายและทนพฤติกรรมของแก๊งนี้ไม่ไหว จึงได้ถอนตัวออกจากแก๊ง จากนั้นประมาณ 1 เดือน ก็ถูกข่มขู่ทำนองว่าจะเอาให้ตาย
“แก๊งนี้มีมานานแล้วประมาณ 1-2 ปี การที่ออกมาทำร้ายผู้คนเพราะต้องการชื่อเสียง และเชื่อว่าเป็นการเก็บแต้มให้กับรุ่นพี่ โดยที่สมาชิกทั้งหมดไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ยืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด อาจจะมีการสูบบุหรี่สูบกัญชา และดื่มน้ำกระท่อม ส่วนในแก๊งนี้จะมีลูกหลานของนักการเมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ผมไม่ทราบ ส่วนคนที่ถูกเรียกว่า “บัง” ไม่ทราบและไม่เคยเจอ สถานที่ที่เด็กแก๊งนี้ใช้รวมตัวกันมีหลายจุด แต่หลักๆจะเป็นที่สวนสาธารณะหมู่บ้านทรายทองวิลเลจ หากถูกตำรวจไล่ก็จะย้ายที่กันไปเรื่อยๆ ฝากเตือนคนในแก๊งที่ยังอยู่ทุกคนให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่ดี” นายเอ กล่าว
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า กลุ่มนี้ไม่ได้ต่างจากแก๊งที่ทำร้ายป้าบัวผัน ใน จ.สระแก้ว ซึ่งเชื่อว่าถ้าตรวจให้ละเอียด คาดว่าอาจจะมีลูกหลานของผู้มีอิทธิพลอยู่ในแก๊ง ฝากถึง ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยกับประชาชนในพื้นที่ให้ดี พอดีทราบข้อมูลมาจากชาวบ้าน มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหลายครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าทางคดี
“หากตำรวจดูแลประชาชนไม่ได้ ก็ควรย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีคดีอาชญากรรม ไปทำคดีเล็กๆหมากัดไก่ เครื่องสูบน้ำหาย” นายเอกภพ กล่าว
นายเอกภพ กล่าวว่า ส่วนในเรื่องการแก้กฎหมายเยาวชนเป็นเรื่องใหญ่ และไม่สามารถทำได้ทันที เนื่องจากจะต้องผ่านขบวนการหลายขั้นตอน แต่ที่สามารถทำได้ตอนนี้ คือ เจ้าหน้าที่ควรจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันที่จะเกิดเหตุแบบนี้ นอกจากนี้ควรจะเพิ่มโทษผู้ปกครอง ที่ปล่อยประละเลยบุตรหลานด้วย เพื่อที่ร่วมรับผิดชอบมีจิตสำนึกต่อสังคม
ทั้งนี้ ทางนายเอกภพ และนายอธิวัฒน์ สิริกังวานวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว นำผู้เสียหายเดินทางไปพบ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ข้อมูลพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุดอย่างเร่งด่วนด้วย โดย ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เตรียมส่งชุดสืบสวนทลาย “แก๊งทรายทอง” แล้ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี