‘ผบ.ตร.’ยันผู้ต้องหาหลบหนีจาก‘สภ.เชียงราย’ทั้งที่ยังใส่กุญแจมือ ยังอยู่ในไทย เช็คประวัติผู้ต้องหาเป็นคนไทยไม่ใช่เมียนมา ด้าน‘ผู้การฯเชียงราย’เร่งตามจับ คาดอีก 2 วันได้ตัว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบร้อยเวร-สิบเวร
22 มกราคม 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปจาก สภ.เมืองเชียงราย ขณะถูกคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลาง ทั้งที่ยังถูกสวมกุญแจมืออยู่ ว่า ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ และพบตัวผู้ต้องหาแล้ว แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้าไปในป่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว คาดว่าจะมีความคืบหน้าในวันนี้
“ยืนยันว่าผู้ต้องหายังอยู่ในประเทศไทย ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงราย และมีโอกาสน้อยที่จะหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่อำเภอเมือง หากจะหลบหนีต้องใช้เวลาเดินเท้าออกไป” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการปล่อยปละละเลยให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปซึ่งหน้านั้น ก็จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีความบกพร่องที่อย่างไรบ้าง โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา คงไม่ต้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามกรณีที่ตำรวจปล่อยให้ผู้ต้องหาหนีไปซึ่งหน้าเช่นนี้ก็นับว่ามีความบกพร่องอยู่แล้ว
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย เดินทางมาตรวจสอบกรณีมีผู้ต้องหาเป็นชาย 1 คน ชื่อนายจะลอ อายุ 23 ปี หลบหนีออกจาก สภ.เมืองเชียงราย โดย พล.ต.ต.มานพ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่สนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆ ติดตามไปจนใกล้ตัวคาดว่าจะสามารถจับกุมได้ภายใน 1-2 วันนี้
พล.ต.ต.มานพ เปิดเผยว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับในข้อหา ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้ต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้รับตัวเอาไว้ แต่ในวันที่ 19 ม.ค.เวลา 18.00 น.ก็ได้เบิกตัวเพื่อจะนำไปสอบปากคำแต่ปรากฏ ว่าสิบเวรที่ได้รับคำสั่งได้นำตัวผู้ต้องหาใส่กุญแจมือไปยังห้องพนักงานสอบสวน หลังจากพาไปอยู่ที่ห้องได้เพียงประมาณ 10 นาที ผู้ต้องหาก็ได้หายไปแล้ว เมื่อพนักงานสอบสวนที่มียศ ร.ต.ท. สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สิบเวรก็ได้ความว่าช่วงเวลาสั้นๆไม่ได้เฝ้าไว้แต่อย่างใด
พล.ต.ต.มานพ กล่าวว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานแล้วทราบว่าแท้ที่จริงบุคคลนั้นไม่ได้ชื่อนายจะลอ แต่ชื่อนายดิษย์ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่พื้นที่ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย โดยเคยมีประวัติเคยถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในท้องที่ สภ.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย และลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนในท้องที่ สภ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กรณีพนักงานสอบสวนหรือร้อยเวรและเจ้าหน้าที่สิบเวร ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อทั้ง 2 นายแล้ว ฐานไม่ทำหน้าที่ให้ดีจนทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไป และอีกส่วนคือการติดตามจับกุมซึ่งหากตรงกับการข่าวคาดว่าจะจับกุมได้” พล.ต.ต.มานพ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายดิษย์ ถูกจับกุมเพราะขับรถยนต์เก๋งคันหนึ่งผ่านพื้นที่บ้านแม่สลัก ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีต่างด้าวมาด้วย จึงได้จับกุมตัวและตรวจสอบรถยนต์เก๋งปรากฏว่าเจ้าของแจ้งหายเอาไว้ที่ สภ.บ้านดู่ ด้วย เมื่อสอบถามเบื้องต้นก็ให้ข้อมูลเป็นเท็จมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อเหตุหลบหนีช่วงนำไปสอบปากคำบนโรงพักดังกล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี