30 มกราคม 2567 เมื่อช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ถังสีบรรจุขนาด 200 ลิตรที่อยู่ภายในโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ท้องที่หมู่ 2 ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ขณะเกิดไฟไหม้เสียงระเบิดดังกึกก้องเป็นระยะได้ยินเสียงดังกันทั้งตำบล หลังเกิดเหตุ นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน พ.ต.อ.ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวน ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เอี่ยมจงจันทร์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.พนมทวน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต.รวมทั้งเทศบาลและ อปท.ในพื้นที่ใกล้เคียงรวมทั้งรถกู้ภัยจากธนบุรี ร่วมกตัญญู ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี และอีกหลายหน่วยงาน กว่า 30 คัน ลงพื้นที่ช่วยระดมฉีดน้ำ และโฟม มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ เข้าร่วม
แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจในการสกัดเปลวเพลิงได้ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสารเคมีที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นสารเคมีชนิดใด โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งกองบัญชาการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับอันตราย จึงต้องรอให้เปลวเพลิงเริ่มเบาบางลงเสียก่อน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่เกรงว่าหากใช้น้ำฉีดสกัดจะทำให้น้ำปนเปื้อนสารเคมีไหลลงสู่คลองส่งน้ำที่ผันไปผลิตน้ำประปาให้กับชาว กทม.จึงจำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบ แต่ยังโชคดีที่จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างไกลชุมชนมากพอสมควร แต่เสียงระเบิดก็สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเป็นอย่างมากโดยเจ้าหน้าที่รอจนกว่าเพลิงที่กำลังลุกไหม้เบาบางลงจึงเร่งใช้น้ำและโฟมฉีดสกัด
ทั้งนี้นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน ได้รับรายงานจากนายชัชพิสิฐ สุระคำพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงว่าจุดเพลิงไหม้เป็นโรงงานปุ๋ย ส.สิทธิ์สว่าง เลขที่ 205/1 ม.2 ต .ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีนาย สุชาติ ชัยรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 3/4 ม.3 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของ ส่วนสารเคมี (ถังสี)ที่เกิดไฟไหม้นั้นเป็นถังที่เสื่อมสภาพขนาด 200 ลิตร มีอยู่กว่า 100 ถัง
ขณะเกิดเหตุนายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้มีการประชุมวางแผนเพื่อทำการดับเพลิงในจุดนี้ เพราะเกรงว่าไฟจะลุกลามทำให้ควบคุมเพลิงได้ยากขึ้น รวมไปถึงตลอดเวลายังมีการระเบิดอยากต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแจ้งว่าหากเข้าไปดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ตอนนี้เกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวเจ้าหน้าที่เอง อีกทั้งยังไม่รู้ว่าข้างในถังขนาด 200 ลิตรคืออะไร จึงต้องปล่อยให้เพลิงระงบลงกว่านี้ถึงจะเข้าไปปฏิบัติการดับเพลิงได้ ตอนนี้ทำได้เพียงควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลามออกนอกบริเวณคันดินเท่านั้น
ล่าสุดเพลิงเริมสงบลงในช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการที่มีผู้จุดไฟเผาอ้อย ทำให้เปลวเพลิงลุกลามไปไหม้ถังสีที่เสื่อมสภาพ แต่จะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี