เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายจิตกร บุษบา เป็นพิธีกร ในประเด็นประเมินการทำงานของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ดำรงตำแหน่งใกล้ถึง 2 ปี หรือครึ่งทางของวาระ ว่า ปีแรกต้องให้โอกาส แต่ขึ้นปีที่ 2 ก็ต้องทำงานพิสูจน์แล้ว และตนก็มีสิทธิ์ในฐานะประชาชนประเมินและเสนอแนะการทำงาน ซึ่งก็ต้องบอกว่า 2 ปีมานี้ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ที่ดูจะมากขึ้นคือน้ำท่วมและอุบัติเหตุสาธารณะ
อย่างเหตุการณ์สะพานถล่มที่ลาดกระบัง เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งตนก็เคยเตือนไปแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีการสรุปว่าสาเหตุเกิดจากอะไร รวมถึงนโยบายอื่นๆ ที่เคยสัญญาไว้ก็ยังไม่เห็น ซึ่งเรื่องอุบัติเหตุจากมนุษย์เป็นสิ่งที่ป้องกันได้หากเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย ไม่ว่าสะพานถล่ม ของหล่น ถนนทรุด มันควรเป็นศูนย์ด้วยซ้ำหรือไม่ก็ต้องเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ หลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก มีประชาชนร้องเรียน ที่สำคัญเกิดขึ้นแล้วไม่มีคำตอบให้ประชาชน
แม้กระทั่งฝุ่น PM 2.5 ที่บอกกันว่าเกิดจากการเผาทางการเกษตรทั้งภายในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะเห็นวาปัญหา PM2.5 ใน กทม. มีน้อย เพราะกรณีของ กทม. นั้นสาเหตุหลักมาจากรถยนต์ โดยเฉพาะรถบรรทุกควันดำ ซึ่งรถบรรทุกเหล่านี้จำนวนมากก็ขนวัสดุก่อสร้างไปตามพื้นที่ก่อสร้างใน กทม. ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม. ต้องกวดขันให้ผู้รับผิดชอบไซต์งานไม่ให้มีรถบรรทุกควันดำ หากปล่อยปละละเลยก็ต้องใช้อำนาจเพิกถอนหรือชะลอการก่อสร้างออกไป แต่ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ไม่มุ่งมั่นดุดันในการแก้ปัญหา
หรือแม้แต่เรื่องของหล่นจากโครงการก่อสร้างต่างๆ จนก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จริงอยู่ที่เจ้าภาพในการก่อสร้างอาจเป็นหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ กทม. เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า แต่อย่าลืมว่า ทุกๆ การก่อสร้างใน กทม. ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ต้องมาขออนุญาต กทม. และเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว กทม. ก็ต้องตรวจรับงานด้วย เท่ากับ กทม. ได้เห็นกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้นหาก กทม. เอาจริงเอาจังความเสี่ยงจะลดลงแน่นอน
“ถือว่าแนะนำในฐานะที่เป็นพลเมือง กทม. บ้านเราก็อยู่ พ่อแม่ลูกเราก็อยู่ ผมว่าการบริหารงานมันต้องสร้างการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรง่าย มันไม่ใช่แค่ออกไปทำกิจกรรม 1-2-3-4 แต่การเปลี่ยนแปลงก็คือการที่ต้องไปดูในรายละเอียด และรายละเอียดของ กทม. มันมีไม่กี่เรื่องที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ อันดับแรกคือเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน เพราะคนห่วงชีวิต ห่วงทรัพย์สิน ความปลอดภัย อันนี้ควรจะโฟกัสมากกว่านี้ ไม่ใช่เกิดเหตุหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น” นายสุชัชวีร์ กล่าว
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2 คือเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ต้องยอมรับว่า กทม. แย่ลงจริงๆ แล้วอย่าไปโทษภาพรวม เพราะ กทม. มีกฎหมายที่ให้สิทธิ์ในการจัดการ ดังนั้นในอีก 2 ปีที่เหลือ ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ทำงานให้หนักแน่นขึ้นหน่อย
ชมคลิปเต็มได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=aPgy43yK5C4
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี