1 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อเวลา 09.50 น. ร้อยตำรวจเอกพัชริดา พิมพ์เภา ร้อยเวรจราจร สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพลาญชัย ว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาวบอร์น ก่อเหตุชนรถยนต์-รถจักรยานยนต์ หลายคันแล้วขับหลบหนีโดยลากคนเจ็บติดรถไปด้วยเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร ก่อนที่คนเจ็บจะหลุดออกมาอาการสาหัส แล้วขับรถหนีไป มุ่งหน้าถนนสายร้อยเอ็ด-ยโสธร จนไปชนรถสกายแล๊ปและรถเก๋ง บนสะพานหน้าโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดนั้น 

จึงประสานหน่วยกู้ภัยอโสกพิทักษ์ชีพร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจเมือง2 เร่งช่วยเหลือคนเจ็บ และสกัดติดตามรถคันก่อเหตุชนแล้วหนีทันที ต่อมาสามารถจับตัวผู้ขับขี่ได้ในลักษณะอาการมึนเมา สวมเสื้อยืดสีขาว พูดจาไม่รู้เรื่อง อยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งกู้ภัยกำลังเร่งช่วยเหลือและรักษาอาการบาดแผลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำร่างคนเจ็บคือ ด.ช.บี อายุ 12 ปี ที่บาดเจ็บสาหัส แขนหักทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลฉีกขาดตามร่างกายหลายแห่ง ขึ้นรถกู้ภัย ส่ง รพ.ร้อยเอ็ด อย่างเร่งด่วน 

ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบร่องรอยเลือดสีแดงเป็นแนวยาวบนถนน จากหน้าศาลเจ้าที่ตลาดโต้รุ่งทุ่งเจริญเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จนมาถึงที่เกิดเหตุไกลกว่า 300 เมตร และตามไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุตั้งแต่เริ่มต้น ก็พบรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าตลาด ถูกชนล้มระเนระนาด 8 คัน 

พลเมืองดี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนที่รถคันก่อเหตุจะขับหนีไปพร้อมกับลากคนเจ็บไปด้วยนั้น รถคันดังกล่าวได้เฉี่ยวชนกับรถกระบะก่อน 1 คัน แล้วจึงเสียหลัก มาชนท้ายรถจักรยานยนต์ ของนางสาวสุภาพร อายุ 53 ปี ที่มีหลานคือ ด.ช.บี อายุ 12 ปี นั่งซ้อนท้ายมาอย่างจังจนเด็กตกจากรถ แล้วรถทับพร้อมกับลากไป ได้ประมาณ 10 เมตร แล้วรถคันดังกล่าวก็จอดบริเวณหน้าตลาด พลเมืองดีจึงวิ่งไปบอกให้จอดและช่วยคนเจ็บ แต่ปรากฏว่า คนขับรถไม่เพียงแต่ไม่ช่วยและไม่จอดรถ แต่กลับขับรถเร่งเครื่องหนีไปต่อ จนกระทั่งร่างคนเจ็บหลุดจากรถ ก่อนถึง 4 แยก ห่างจากจุดชน กว่า 300 เมตร แล้วเร่งเครื่องหนีไปจนไปชนสามล้อและรถเก๋งอีกคัน ถูกเจ้าหน้าที่จับคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว 

ผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวไว้ได้และถูกนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด จึงพบว่าผู้ก่อเหตุ เป็นตำรวจ คือดาบตำรวจสมทรง เป็นชาวร้อยเอ็ด มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.3 ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด และปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่ สภ.นาใน จ.สกลนคร ซึ่งเดินทางกลับบ้านจนมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น  

ล่าสุดอาการของคนเด็ก 12 ปี ที่รับบาดเจ็บสาหัสทราบว่ายังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ชั้น 4 รพ.ร้อยเอ็ด แพทย์ที่ รพ.ร้อยเอ็ดบอกว่ายังอยู่ในสภาวะ อาการสาหัส แขนหักทั้ง 2 ข้าง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและอาการน่าวิตกเพราะความดันต่ำผิดปกติและยังไม่ปลอดภัย และต้องระวังอาการแทรกซ้อนตลอดเวลา ห้ามญาติเยี่ยมโดยเด็ดขาด  

ด้านพลตำรวจตรี ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงของการสอบสวนผู้กระทำความผิด ได้สั่งการไปยัง พันตำรวจเอกชลิต ศรีหานู ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด ให้สืบสวนสอบสวนและให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างเต็มที่และเป็นธรรมทุกฝ่าย ถึงแม้นผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับกำชับให้ ผกก.เร่งสรุปสำนวนเหตุรายงานให้ทราบโดยละเอียดและต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ให้มองว่าพอผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจก็จะช่วยเหลือกัน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการช่วยคนที่กระทำความผิดอย่างแน่นอน โดยไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผู้ขับขี่ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากตรวจวัดขึ้น 321 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่ากฎหมายกำหนด 

นอกจากนั้นยังมีข้อหาการกระทำความผิด คือขับรถโดยประมาทชนรถผู้อื่นเสียหายและมีผู้บาดเจ็บหลบหนีไม่แจ้งเหตุและไม่หยุดช่วยเหลือ รวมทั้งขับรถขณะมึนเมาสุราเราก็ต้องดำเนินคดีแม้นผู้ขับขี่เป็นข้าราชการตำรวจ ขณะนี้ทำการควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ดแล้ว ยืนยันตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไป ตรงมา จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายแน่นนอน.012