เร่งขยายผลฟอร์จูนเนอร์ซุกในป่านครพนม ตำรวจมั่นใจเตรียมส่งขายลาว เจอกุญแจวางในเกะ พบหลักฐานติดสัญญาเช่าซื้อบริษัทไฟแนนซ์
วันที่ 5 ก.พ.67 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้มอบหมายให้ตำรวจสืบสวนชุดพยัคฆ์ ตรวจสอบหาข่าวเพื่อขยายผล หลังมีการตรวจยึดรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ชุมพร โดยชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสให้กับทางตำรวจทางหลวง กระทั่งพบว่ารถจอดซุกอยู่ในป่า บริเวณปากทางเข้าบ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก ร.ต.อ.กัมปนาท กัลยานาม รองสารวัตรตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 4 (ส.ทล.5 กก.4 บก.ทล.) ได้ประสานตำรวจท้องที่ สภ.เมืองนครพนม มี ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รองสารวัตรสอบสวนฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร ร่วมตรวจสอบ โดยภายในรถยนต์ดังกล่าวไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่พบพิรุธมีกุญแจรถทิ้งอยู่ในกล่องเก็บของหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานและนำรถมาเก็บรักษาไว้ที่งานสืบสวน สภ.เมืองนครพนม
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าววิ่งมาจากพื้นที่ต่างจังหวัด ผ่าน จ.สกลนคร มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เชื่อว่าพบตำรวจทางหลวงที่จอดสกัด จึงหลบหนีมาเส้นทาง อ.เมืองนครพนม คาดว่าจะมีรถยนต์ ทีมงานเคลียร์เส้นทาง หลังทราบว่ามีตำรวจสกัดตรวจสอบ จึงจอดรถทิ้งหลบหนี
ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ชุมพร ยังติดสัญญาเช่าซื้อ เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง มีนางวันเพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เป็นผู้เช่าซื้อ ตรวจสอบข้อมูลเป็นคนเดียวกัน ที่แจ้งความรถยนต์หายที่ สภ.สวี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังระบุว่า สามี คือนายขนบ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี หายตัวไปด้วย อยู่ระหว่างตำรวจตรวจสอบหาที่มา พร้อมประสานเจ้าของรถยนต์มาตรวจสอบ เพื่อส่งมอบรถยนต์คืน เนื่องจากไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าจะมีการส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน และยังไม่พบการกระทำผิด
พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว หลังมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสจอดทิ้งซุกป่า พร้อมประสานตำรวจทางหลวง และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ไปตรวจสอบ ไม่พบหลักฐานกระทำผิดกฎหมาย จึงได้ประสานพื้นที่เกิดเหตุที่รับแจ้งความ นำเอกสารมาตรวจสอบเพื่อรับรถยนต์คืน กับผู้ถือกรรมสิทธิ์
ส่วนการสอบสวนขยายผลดำเนินคดีเกี่ยวกับการโจรกรรมจะต้องให้พื้นที่รับแจ้งความดำเนินการ นอกจากนี้ในส่วนของการโจรกรรมข้ามชาติส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ถึงแม้จะมีเบาะแส แต่ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดทางกฎหมาย จึงต้องส่งมอบรถยนต์คืนหรือหากเจ้าของมีส่วนรู้เห็น ก็ต้องรอการสอบสวนขยายผลต่อไป
สำหรับต้นทางรถยนต์ที่ส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากสถิติการจับกุมตรวจยึดในพื้นที่ต้นทางส่วนใหญ่มาจากการโจรกรรม รวมถึงรถยนต์ที่จำนำในบ่อนและหนีไฟแนนซ์ โดยชาวบ้านผู้เสียหาย หากถูกโจรกรรมหรือต้องการตรวจสอบข้อมูลรถหายสามารถติดต่อประสานที่ 191 หรือ ศูนย์ประสานงานการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 โทร.1599
ส่วน ร.ต.อ.กัมปนาท กัลยานาม รองสารวัตรตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 4 (สกลนคร) เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมีการตรวจยึดรถยนต์ได้รับการประสานจากตำรวจท้องที่ สภ.สวี จ.ชุมพร ประสานมายังกองกำกับการทางหลวง 4 สกลนคร ระบุว่า รถยนต์ดังกล่าวเข้าพื้นที่ จ.นครพนม จึงระดมกำลังออกตรวจสกัดแต่ไม่ทัน จนกระทั่งพบว่ามีชาวบ้านแจ้งเบาะแส รถยนต์เป้าหมายนำไปจอดทิ้งไว้ในป่า พื้นที่บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จึงเข้าตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากข้อมูลทางเจ้าของรถยนต์ คือนางวันเพ็ญ ระบุว่าสามีคนขับหายไปด้วย ขณะนี้ยังไม่พบตัว เชื่อว่าจะมีการนำรถมาพื้นที่ชายแดน เพื่อส่งต่อไปขายประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทางตำรวจทราบเบาะแส สกัดตรวจยึดจึงทิ้งรถยนต์หนี
ส่วนการขยายผลต้องพบตัวนายขนบ สามีของผู้เช่าซื้อ โดยตำรวจท้องที่เป็นผู้สอบปากคำว่า มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้เช่าซื้อรถยนต์จะมีส่วนรู้เห็นด้วย โดยนำรถไปจำนำกับบ่อน หรือจำนำในตลาดมืด บางรายหัวหมอแกล้งไปแจ้งความว่ารถหาย ความจริงคือเป็นคนที่มีส่วนรู้เห็นทุกอย่าง หากเป็นตามที่คาด แม้ผู้เช่าซื้อ นำเอกสารมาขอรถคืน ก็ต้องส่งให้ผู้รับจำนำเหมือนเดิม แล้วหาจังหวะเหมาะๆส่งข้ามโขงไปยังปลายทางประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีความต้องการรถยนต์รุ่นนี้จำนวนมาก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี