ส.อบต.เกาะมุก อำเภอกันตัง ร้องถึงหน่วยงานรับผิดชอบโครงการติดตั้งเสาไฟส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว 157 ต้น งบประมาณจังหวัดกว่า 19 ล้านบาทใช้งานได้ประมาณ 2 เดือน ดับสนิทไปแล้วกว่า 60 เสาส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลมาท่องเที่ยวขาดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและยังทำให้ธุรกิจของชาวบ้านบางจุดต้องซบเซาเพราะความมืด วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ และประสานผู้รับจ้างเข้าซ่อมแซมด่วน เนื่องจากยังอยู่ในระยะสัญญาประกัน
วันนี้ (6 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายหิม หญ้าปรัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบง (ส.อบต.) หมู่ที่ 2 บ้านเกาะมุก ต.เกาะลิบง ว่าไฟส่องสว่างที่ติดตั้งขอบถนนบนเกาะมุก ซึ่งเป็นแหล่งชื่อดังของ จ.ตรัง ได้ดับสนิทไปกว่า 60 เสาเมื่อตรวจสอบข้อมูลทราบว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการตามแผนปฎิบัติราชการของ จ.ตรัง (งบประมาณ ประจำปี 2565) โดยมีแขวงทางหลวงชนบทตรัง เป็นผู้รับผิดชอบ ชื่อโครงการเพิ่มมาตรฐานด้านรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างแหล่งท่องเที่ยวเกาะมุก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
ลักษณะงานก่อสร้าง 1.ติดตั้งเสาไฟฟ้ากึ่งทีบาร์ สูง 7.00 เมตร พร้อมอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 143 ต้น 2.ติดตั้งเสาไฟ High Mast (เสาไฮแมส) สูง 7.00 เมตร พร้อมอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 12 ต้น 3.ติดตั้งเสาไฟ High Mast (เสาไฮแมส) สูง 12.00 เมตร พร้อมอุปกรณ์จำนวน 2 ต้น รวมทั้งหมด 157 ต้น มีบริษัท เอสทีพี 2017 จำกัด เป็นผู้รับจ้างระยะเวลาเริ่มต้นสัญญาวันที่ 26 ก.พ.65 สิ้นสุดสัญญา 24 ส.ค.65 วงเงินค่าก่อสร้าง (งบประมาณ) จำนวน 19,160,000 บาท (สิบเก้าล้านหนึ่งแสนหกหมื่นบาทถ้วน) และมีวิศวกรโยธา และนายช่างโยธา จากแขวงทางหลวงชนบทเป็นผู้ควบคุมงาน
นายหิม หญ้าปรัง ส.อบต.หมู่ 2 บ้านเกาะมุก ต.เกาะลิบง ผู้ร้อง กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า ภายหลังจากติดตั้งไฟฟ้าดังกล่าวเสร็จ และเริ่มเปิดใช้งาน แรกๆไฟก็ติดสว่างดี แต่หลังจากนั้นมาไม่เกิน 2 เดือนไฟกลับดับสนิท ตนจึงขับรถ จยย.เพื่อนับจำนวนหลอดที่ดับ ก็พบว่าดับไปกว่า 60 กว่าต้น จาก 157 ต้น โดยต้นที่เหลือก็ยังคงติดอยู่ บางจุดก็ดับทั้งหมดทุกดวง บางจุดก็ดับสลับกันไป
ช่วงที่มีโครงการลงมา และเปิดใช้งานสว่างชาวบ้านก็ดีใจกัน แต่เมื่อไฟมาดับลง ชาวบ้านบางส่วนก็ได้รับผลกระทบ จึงได้สะท้อนปัญหาผ่านตนมา บางจุดพ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ เนื่องจากถนนมีความมืด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็จะไม่กล้าเดินผ่าน ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติลงมาท่องเที่ยวกันเยอะมาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของชาวบ้านอีกด้วย
ที่ผ่านมาตนก็เคยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ของ จ.ตรัง แต่ก็ยังไม่มาแก้ไขให้ เพราะเหตุผลอะไรตนก็ไม่รู้ ซึ่งตอนนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าโครงการยังไม่หมดระยะเวลาประกัน เพราะประกันจะอยู่ในระยะเวลา 2 ปี แต่คิดว่าน่าจะเหลือเพียงไม่กี่เดือนก็คงจะหมดระยะเวลาประกันโครงการแล้ว จึงอยากวิงวอนไปให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ประสานผู้รับจ้างเข้ามาซ่อมแซมและแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติทุกดวง หากหมดระยะเวลาประกันลงไปแล้วตนก็มองว่าการซ่อมแซมคงจะยุ่งยากกว่านี้
โดยโครงการนี้ยังไม่ได้ส่งมอบให้กับ อบต.ในพื้นที่เป็นผู้ดูแล และถ้าหากจะมีการส่งมอบโครงการให้กับทาง อบต.เกาะลิบง ก็คิดว่าเกินศักยภาพที่ทาง อบต.จะรับผิดชอบได้ จึงขอร้องเถอะให้เข้ามาซ่อมและแก้ไขให้ไฟได้ติดสว่างก่อนทุกต้น หากแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วก็ค่อยมอบเงินประกันให้ผู้รับจ้าง ถ้าหากไม่ซ่อมก็ไม่ต้องมอบเงินประกันคืนให้ผู้รับจ้างตามสัญญา ตนก็จะทวงและเรียกร้องอยู่เช่นนี้จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ
ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวบนเกาะมุกเป็นจำนวนมากเข้าออกขึ้นลงเกาะวันละกว่า 100 คน และจะอยู่บนเกาะเลยประมาณ 500 คนต่อวัน รวมกับประชาชนบนเกาะมุกอีกประมาณ 2,000 กว่าคน รวมประชากรแฝงอีกประมาณ 500-600 คน ธุรกิจต่างๆ เป็นไปด้วยดี แต่บังเอิญมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าที่ดับเข้ามาเลยธุรกิจบางส่วนบางบ้านได้รับความเดือนร้อนกันและเมื่อนักท่องเที่ยวเดิน ทำให้ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะมืด รวมไปถึงยังทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะไม่ค่อยขับขี่รถกัน ส่วนใหญ่มักจะเดินเท้ากันเสียมากกว่า - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี