พบศพหนุ่มใหญ่เมืองน่านถูกเผานั่งยางปริศนาหน้ากระท่อมเฝ้าสวนส้ม ตร.เร่งหาเบาะแส

วันที่ 8 ก.พ.67 เมื่อเวลา 11.00 น.ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รับแจ้งพบศพถูกเผาด้วยยางรถยนต์บริเวณหน้ากระท่อมเฝ้าสวนส้ม บริเวณขุนน้ำห้วยมื่น ห่างจากบ้านห้วยปุก ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เข้าไปบริเวณป่าประมาณ 4 กิโลเมตร ที่เกิดเหตุเป็นลานบริเวณด้านหน้ากระท่อม พบกองไฟไหม้ยางรถยนต์ พบควันเพิ่งสงบในกองไฟพบกะโหลกมนุษย์กับร่างกายถูกเผาไหม้จนเหลือแต่กระดูก และยังมีขาท่อนล่างถูกไฟเผาแต่ไหม้ไม่หมด 

บริเวณรอบกระท่อมชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดคุยและสันนิษฐานถึงสาเหตุการตายว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ แต่หากฆ่าตัวตายแล้วจะเผานั่งยางได้อย่างไรแล้วทำไม แต่หากเป็นการฆาตกรรมทำไมไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ทั้งหากจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 5 เมตรพบปืนลูกซองยาวตกอยู่หนึ่งกระบอก โดยมีปลอกกระสุนที่ยิงแล้วยังคาอยู่ในรังเพลิง และด้ามปืนมีรอยแตก ส่วนศพนั้นชาวบ้านและญาติๆ คาดว่าเป็นศพของนายแคะ อายุ 45 ปี เจ้าของกระท่อมดังกล่าวที่ออกจากบ้านมาสวนตั้งแต่เมื่อวานตอนช่วงเวลา 7 โมงเช้า ซึ่งหายตัวไป

นายสมชาย อายุ 35 ปี หลานหลานชายนายแคะ ผู้พบศพเล่าว่า ตนเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯเพื่อมาร่วมงานฉลองตรุษจีนของหมู่บ้าน เช้านี้ได้ออกมาดูสวนยางกับแฟนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ พอดูเสร็จก็เลยจะไปชวนลุงคือนายแคะ ที่ตนทราบว่าได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า แล้วยังไม่กลับบ้าน เมื่อมาถึงกระท่อมก็เดินเข้าไปเห็นกองไฟก็นึกว่าลุงเผาขยะก็ไม่ได้สนใจ จึงเข้าไปดูในกระท่อมดังกล่าวก็ไม่เห็นลุง เลยเดินออกมาสังเกตุกองไฟดูดีๆ พบว่าเป็นหัวกะโหลก และท่อนขาช่วงล่าง จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบเป็นร่างคนตนตกใจจึงวิ่งขึ้นเขาไปโทรศัพท์แจ้งตำรวจและบอกให้แฟนขับรถออกไปตามคนข้างนอกเข้ามาดูโดยตนอยู่เฝ้าที่เกิดเหตุ

นายสมชาย ยังเล่าต่อว่า เมื่อวานเจอนายแคะ พูดคุยแต่ผิดปกติที่ว่าปกตินายแคะเป็นคนร่าเริง แต่เมื่อวานถามคำตอบคำ ทราบว่าทะเลาะกับเมีย เรื่องนายแคะ หวาดระแวงว่าเมียจะมีผู้ชายคนใหม่ จึงงอนเมียหนีเข้าไปนอนในสวนวันนี้ตนจึงจะเข้าไปชวนเพราะแถวบ้านมีการสังสรรค์และมีรำวง

ด้านนางนงคราญ อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ตาย เผยว่า ตนกับนายแคะแต่งงานอยู่กินกับนายแคะมา 20 ปีเศษแล้ว จนมีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นชาย อายุ 19 ปี รักกันดี แต่ช่วงหลังนายแคะมักดื่มเหล้า ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้นตนไม่ขอให้ข้อมูล นายแคะมักหวาดระแวงว่ามีผู้ชายมาติดพันตน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีใครซึ่งนายแคะหวาดระแวงไปเอง และมักจะมีปากเสียงกันแต่ไม่เคยลงไม้ลงมือหรือทะเลาะกันรุนแรง

โดยก่อนหน้านี้ก็ทะเลาะกันเรื่องหึงหวง นายแคะจึงได้ออกจากบ้านมานอนสวนเมื่อวานตอนเช้าประมาณ 7-8 โมงก็ไม่ได้ติดต่อกันเพราะบริเวณดังกล่าวไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จนวันนี้หลานชายได้ไปพบศพดังกล่าว ตนเห็นเพียงท่อนขาก็รู้ว่าเป็นสามีตน ส่วนสาเหตุว่านายแคะเคยทะเลาะหรือโกรธเคืองกับใครตนไม่รู้และสาเหตุการตายใครเป็นคนทำหรือทำเองตนก็ไม่รู้ เพราะไม่รู้จะตอบยังไง หากฆ่าตัวตายแล้วจะเผาตนเองเพื่ออะไร หรือหากโดนฆ่าแล้วเผาก็ไม่รู้ว่าใคร แล้วทำไมไม่มีร่องรอยการต่อสู้

พล.ต.ต.ดเรศ กัลลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวหลังตรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุว่า เบื้องต้นเรายังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ซึ่งศพที่เราเจอถูกเผาจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ แต่สวนเป็นสวนของนายแคะ และนายแคะได้หายตัวไป ซึ่งเบื้องต้นเราสันนิษฐานว่าเป็นนายแคะ ซึ่งเบื้องต้นได้เก็บดีเอ็นเอ ลูกชายนายแคะและหลานชายไปตรวจเทียบ เพื่อจะได้ยืนยันให้ชัดเจนว่าเป็นนายแคะ หรือไม่

ส่วนสาเหตุขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นตั้งปมไว้ 2 อย่างคือ เป็นเรื่องส่วนตัวคือผู้ตายอาจไปเมื่อเรื่องกับใครที่ไหนแล้วถูกฆ่าแล้วเผาอำพราง ส่วนอีกประเด็นคือปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งทะเลากันมากว่า 2 ปี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องรุนแรงจนทำให้ถึงกับต้องฆ่ากัน เบื้องต้นขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ว่าสาเหตุว่าถูกทำร้ายหรือฆ่าตัวตาย

เบื้องต้นกู้ชีพกู้ภัยเพชรเกษมเขตเมืองน่าน ได้นำชิ้นส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ ไปเก็บรักษาที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลน่าน เพื่อนอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ต่อไป - 003