ตม.ลุยล้างบางปล่อยกู้ดอกโหด เอกซเรย์พื้นที่เข้ม รวบ 4 คนไทย 7 ต่างด้าว
9 กุมภาพันธ์ 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 , พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. , พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ
คดีแรก บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี , ตม.จว.สิงห์บุรี และ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จับกุมนางมะคิ่น (นามสมมติ) อายุ 53 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจับกุมได้ริมถนนสาธารณะ หน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รับนางมะคิ่น เข้าเป็นพนักงานในร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งตั้งอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.บางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ในตำแหน่งแม่บ้าน โดยมี น.ส.ขนิษฐา สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่เป็นพนักงานประจำออฟฟิศ มีหน้าที่ดูแลเปิดตู้เก็บเงินเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และนำเงินไปฝากเข้าบัญชีของผู้เสียหาย แต่ในบางครั้ง ผู้ต้องหาที่ 2 ก็จะใช้ให้ นางมะคิ่น เป็นผู้เปิดตู้และเก็บเงินมาส่งให้ผู้ต้องหาที่ 2 ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่ามียอดเงินที่ทางร้านต้องได้รับกับจำนวนที่ปรากฏในรายการบัญชีรายรับของทางร้าน ไม่ตรงกัน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าระหว่างเดือน มกราคม 2566 ถึงเดือน พฤศจิกายน 2566 มีเงินสูญหายไปเป็นจำนวน 761,978 บาท หลังจากผู้เสียหายทราบเรื่อง ในช่วงคืนของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นางมะคิ่น ได้เก็บข้าวของแล้วหลบหนี
จากการตรวจสอบภายหลังพบว่าช่วงเดือน กันยายน 2565 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 นางมะคิ่น ได้มีการวานให้ ผู้ต้องหาที่ 2 โอนเงินเป็นจำนวนหลายครั้งซึ่งยอดเงินที่โอนเกินกว่าจำนวนเงินเดือนที่ตนได้รับทุกเดือน รวมถึงรายการเดินบัญชีของผู้ต้องหาที่ 2 ก็มีเงินเข้าในลักษณะต้องสงสัย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนแล้ว
จากการสืบสวนของชุดจับกุมทราบว่า หลังจากที่นางมะคิ่น ได้หลบหนีออกจากร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ได้ไปสมัครเข้าทำงานกับนายจ้างรายใหม่ในพื้นที่ ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ เพื่อสืบสวนติดตามจับกุม จนกระทั่งพบนางมะคิ่น ในบริเวณริมถนนสาธารณะ หน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุมจากการสอบถามนางมะคิ่น ให้การว่าสาเหตุที่หนีออกจากงานที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ เนื่องจากต้องการไปหางานที่มีค่าจ้างสูงกว่า และปฏิเสธว่าไม่ได้ลักเงินของผู้เสียหายไป
คดีที่ 2 บก.ตม.3 ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก ของประเทศไทย รวมจำนวน 25 จังหวัด ได้ดำเนินการสืบสวน รวบรวมข้อมูล การกระทำผิดกฎหมายของคนต่างด้าว รวมถึงคนไทย ซึ่งมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อวางแผนระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิด
หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยสังกัด บก.ตม.3 ดำเนินการสืบสวน จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งในห้วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2567 มีผลการจับกุมรวมทั้งสิ้น 11 ราย แบ่งเป็น คนต่างด้าวสัญชาติอินเดีย 6 ราย สัญชาติเมียนมา 1 ราย และคนไทย จำนวน 4 ราย
ผู้กระทำผิดทั้ง 11 รายข้างต้น ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา ให้บุคคลอื่นกู้ยืนเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด, ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของคนต่างด้าวยังถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และจะยังคงดำเนินมาตรการเข้มข้น ต่อเนื่องในการป้องกัน ปราบปราม สืบสวน จับกุม การกระทำผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี