วืดประกัน!!! "วนรัชต์"นอนเรือนจำ หลังศาลอาญาสั่งยกคำร้อง กลุ่มผู้เสียหายตัวเรียกร้อง"วนรัชต์"รับผิดชดใช้ความเสียหาย
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ควบคุมตัว นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทายาทตระกูลธุรกิจสีชื่อดัง ผู้ต้องหาคนสำคัญคดีฉ้อโกงหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ตามหนังสือด่วนที่สุด ของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหา มาส่งตัวฟ้องศาล (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ร่างกายซีดเซียว! คุมตัว'วนรัชต์' ทายาทตระกูลธุรกิจสีชื่อดัง ส่งอัยการพิเศษ คดีโกงหุ้นสตาร์ค)
ต่อมาพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นจำเลย ต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำ อ.441/2567 พร้อมทั้งสอบคำให้การ โดยนายวนรัชต์ แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 10 มิถุนายนนี้ เวลา 13.30 น.
ต่อมาญาตินายวนรัชต์ จำเลย ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดิน 3 แปลง ราคาประเมินหลายล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอัยการโจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ในชั้นนี้ จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายวนรัชต์ จำเลย ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดี
ด้าน นางณฐิยา ผู้เสียหายตัวจริงจากการลงทุนในหุ้นกู้ STARK กว่า 13 ล้านบาท ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า นอกจากคดีอาญาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องไปวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายตัวจริงได้ยื่นฟ้องคดีคดีแบบกลุ่มที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยใช้โจทก์ฟ้องแค่ 3 คน โดยที่เนื้อหาคดีนี้จะครอบคลุมผู้เสียหาย ครบคนทุกคนกว่า 4,000 ราย ให้ได้รับการเยียวยาเท่าๆ กัน เป็นการดำเนินคดีครั้งเดียวแต่จะช่วยผู้เสียหายทุกคน โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับเป็นคดีแบบกลุ่ม (Class Action) หรือไม่ ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความหวังของผู้เสียหายทุกคน เพราะถ้าศาลไม่รับเป็นคดีแบบกลุ่ม ทุกคนต้องไปยื่นฟ้องกันเองแบบแพ่งสามัญ ซึ่งผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย คดีก็จะมีกว่า 4,000 คดีในศาล แล้วที่สำคัญคือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีศักยภาพในการฟ้องด้วยตัวเองได้ เพราะบางคนมูลหนี้ไม่มากพอ จะต้องจ่ายเงินค่าวางศาล ค่าทนายความ ก็จะรู้สึกว่ายอมจำนนดีกว่า ไม่สู้ดีกว่า หรือบางคนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สะดวกที่จะไปฟ้องเอง บางคนอายุมาก บางคนก็ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย หรือการจะเข้าถึงข้อมูลสำหรับประชาชนธรรมดาแบบเรามันยากมาก ขนาดเรารวมตัวกันมากขนาดนี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ง่าย ที่จะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม แต่เราโชคดีที่เรารวมตัวกันได้นับ 100 คน โดยการช่วยเหลือของ นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดี Class Action ได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยที่ไม่คิดเงินเลยแม้แต่บาทเดียว เราอยากให้คดีที่เราฟ้องเองในวันที่ 21 มีนาคม ขอให้ศาลพิจารณารับเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมเท่ากัน ไม่ต้องไปแย่งฟ้องกันเอง ยังไงขอเชิญผู้สื่อข่าวเป็นกำลังใจให้พวกเราผู้เสียหายทุกคน ในวันดังกล่าวด้วยเวลา 09.00 น.
"กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่มสตาร์คตัวจริง เพราะเราเป็นผู้เสียหายตัวจริง ไม่ใช่เป็นเป็นตัวแทนของผู้เสียหาย เราเป็นผู้เสียหายตัวจริงที่มีการคัดกรองทุกคนเป็นเจ้าของหุ้นกู้จริงๆ เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่มีกลุ่มเป็นผู้เสียหายสามารถที่จะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเราได้ พวกเราต่อสู้เพื่อผู้เสียหายทุกคนโดยที่ไม่คิดเงิน แค่ต้องการความถูกต้อง เราไม่อยากให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องมันเกิดขึ้นในสังคมเรา เราอยากให้มันมีมาตรฐานที่ดีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก" นางณฐิยา กล่าว และว่า สิ่งที่อยากฝากถึงนายวนรัชต์ คือ พวกเราผู้เสียหายควรได้สิ่งที่สูญเสียไปคืนมา อย่างที่นายวนรัชต์ เคยกล่าวเคยพูดไว้ว่า เขาเสียใจและอยากจะชดใช้ให้กับพวกเรา ก็อยากให้คำพูดนั้นเป็นการกระทำขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่พูด เราอยากเห็นการกระทำตรงนั้นจริงๆ ก็จะดีใจมากถ้าคืนเงินให้ ถ้ายอมรับผิดเราก็พร้อมที่จะให้อภัย
ถ้ามีการคืนเงินเยียวยาผู้เสียหายครบ เราก็พร้อมจะแถลงศาลให้บรรเทาโทษ เราต้องการมากที่สุดก็คือ เราอยากให้ผู้เสียหายทุกคนได้รับเงินคืน เพราะว่าหลายๆ คนก็เป็นผู้สูงอายุ และเขาอยากจะได้เงินคืนในช่วงอายุของเขา บางคนเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต บางคนเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลพ่อแม่ที่อายุมาก และต้องใช้เงินในการดูแลชีวิต ซึ่งตรงนี้ถ้าเกิดคืนมาทุกคนก็จะได้รับการเยียวยา ก็อยากให้คืนเงินเร็วที่สุด เพราะว่าการต่อสู้กันไปมันอาจจะใช้เวลานาน บางคนอาจจะมีชีวิตไม่ถึง ถ้าเกิดเขายอมคืนเงินให้ ก็พร้อมที่จะจบคดี ความผิดเกิดขึ้นแล้วเราก็จะไม่ให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเกิดเขารับผิดชอบ และควรกำหนดเวลาว่าเค้าจะชดใช้เมื่อไหร่ไม่ใช่ 10 หรือ 20 ปี เพราะมันอาจจะเกิดอายุของเราไปแล้ว ในฐานะผู้เสียหายเราอยากให้ผู้ที่กระทำความผิดเข้ามามาชดใช้ให้กับเรา และพวกเราสูญเสียไปมาก
ด้าน นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้บริษัท สตาร์คฯ อีกกลุ่มหนึ่ง เปิดเผยว่า ในฐานะของของผู้ร่วมสังเกตการณ์ในการส่งตัวนายวนรัชต์ มาฟ้องคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งจากที่สังเกตอาการของนายวนรัชต์ ก็สันนิษฐานว่าน่าจะป่วยจริง และขณะนี้ทางอัยการ และดีเอสไอ ได้มีการนำตัวนายวนรัชต์ ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ ศาลอาจจะมีการพิจารณาว่าหากนำเข้าในเรือนจำอาจจะอาการทรุดส่งผลให้ไม่สามารถให้การต่อศาล ก็อาจกระทบทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาไปด้วย หากศาลพิจารณาให้พักรักษาตัวภายใต้การควบคุมของพนักงานหรือไม่ มองว่าศาลจะมีการพิจารณาตามความเห็นทางการแพทย์
ทั้งนี้ หากในวันนี้นายวนรัชต์ ไม่ได้รับการประกันตัว นายวนรัตน์ และจำเลยรายอื่น อาจจะต้องรอในเรือนจำไปถึงช่วงเดือนมิถุนายน ในฐานะตัวแทนผู้เสียหายต้องการที่จะพูดคุยกับนายวนรัชต์ เกี่ยวกับประเด็นที่ปฎิเสธว่าไม่ได้การกระทำผิด และใครเป็นผู้กระทำผิด รวมถึงการชดใช้เยียวยาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้กับผู้เสียหาย มองว่าหากมีการแสดงความสุจริตใจพร้อมเยียวยาผู้เสียหาย แสดงความรับผิดชอบพร้อมสำนึกความผิดก็น่าจะมีผลกับทางคดีอาญา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี