ญาติเหยื่อสังหาร 2 ศพบุกโรงพักไม่โอเคผลสรุปคดี 'ส.อ.' ยิงดับคาปั๊มนครพนม ฉงนมูลเหตุลั่นไกฆ่า เนื่องจากผู้ตายทั้ง 2 ไม่เคยรู้จักคนก่อเหตุ

ความคืบหน้าหลังตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.บช.ภ.4) ได้จับกุมตัว สิบเอก กฤษณะพล (สงวนนามสกุล) หรือ ส.อ.พล อายุ 38 ปี ทหารสังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่ง ตำแหน่งพลขับทั่วไป ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนสงครามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายส่งตัวไปฝากขังยังมณฑลทหารบกที่ 24 (มทบ.24) ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี และเดินหน้าหาหลักฐานเชื่อมโยง กรณีสังหารโหด 2 เด็กปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม คือ ท้าวพมมะจัก หรือเซล อายุ 33 ปีเป็นชาวลาวแขวงบอลิคำไซย และ น.ส.วิชชุดา หรือนัน ม่ายสาววัย 50 ปี ชาวบ้านดอนม่วง หมู่ 9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนมเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566

ต่อมามีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบดีเอ็นเอของนางนันติดอยู่ที่เสื้อคุมของ ส.อ.พล จึงแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพิ่มอีกหนึ่งข้อหา โดย ส.อ.พลให้การปฏิเสธ ซึ่งก่อนหน้านี้สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงใช้การสืบสวนทางเทคโนโลยี จนมีการเข้าไปจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมค้นบ้านพักในหน่วยทหาร พบอาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก จนกระทั่งสืบสวนเชื่อมโยง พบหลักฐานสำคัญที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิง 2 เด็กปั๊มน้ำมัน สำหรับอาวุธปืนอ้างว่าซื้อมาจากชายแดน เนื่องจากเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ 

ล่าสุดทางญาติผู้ตายประกอบด้วย นางสุพัตรา หรือนิ้ม อายุ 53 ปี พี่สาวของนางนัน, น.ส.วรินทร์ หรือมิ้ว อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางนัน และนางสุพิลม อายุ 32 ปี น้องสาวของท้าวเซล ได้เดินทางไปพบ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เพื่อขอความชัดเจนของคดี เนื่องจากคาใจปมเชื่อมโยงกับทหารยศสิบเอกที่ก่อเหตุ เพราะยังสงสัยเกี่ยวกับชนวนเหตุลงมือ เนื่องจากผู้ตายทั้งสองไม่เคยรู้จักคนก่อเหตุ แต่มีกระแสเรื่องของปมชู้สาว รวมถึงปมขัดแย้งธุรกิจ ทำให้ญาติเกิดความสับสน ทั้งนี้ ทางตำรวจยืนยันว่า มีหลักฐานเอาผิดเพียงพอ จับคนร้ายไม่ผิดตัว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบหน่วยงานทหาร ปล่อยให้ดำเนินคดีตามขั้นตอน ทำให้พวกญาติๆ ไม่พอใจในการสรุปคดี - 003