เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นายนนทรานุวัตร พรมจันทร์ ประธานคณะติดตามงานนนทบุรี เดินทางลงพื้นที่ยังบ้านเลขที่ 73 ซอยติวานนท์ 18 แยก 3/8 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นางวิมลศิริ มีสมสังข์ เจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ ว่ามีชายสูงอายุรายหนึ่งพักอยู่ในบ้านพักที่ผุพังทรุดโทรมจนใกล้จะผัง บริเวณรอบบ้านและในบ้านเต็มไปด้วยขยะจำนวนมาก ซึ่งนอกจากชายผู้สูงอายุรายนี้จะตาบอดข้างหนึ่งส่วน อีกข้างมองเห็นลางๆ แล้ว น้ำประปากับไฟฟ้าก็ถูกตัดไปนานกว่า 20 ปี จนทุกวันนี้ต้องอาศัยเงินจากเบี้ยคนพิการและคนชรา รวมกันเดือนละพันกว่าบาท ซื้อมาม่ามาแช่น้ำกินเพื่อประทังชีวิตในแต่ละวัน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายสมรักษ์ จาตุรนต์ประไพ อายุ 65 ปี อดีต รปภ.ซึ่งถูกรถชนจนทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท จนต้องออกจากงานมาใช้ชีวิตตามลำพังที่บ้านพักหลังนี้ เนื่องจากอาการเจ็บป่วยจนทำเดินไม่ถนัด
จากการสอบถาม ลุงสมรักษ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพังกับสุนัขอีกหนึ่งตัว ครอบครัวตนเคยมีภรรยากับลูกชาย แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว ตนไม่อยากพูดถึง เนื่องจากสุขภาพตนไม่ดีจากอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และดวงตาก็บอดไปข้างหนึ่งและมองเห็นลางๆ อีกข้างหนึ่ง ทำให้ตนเคลื่อนไหวหรือขยับตัวลำบาก ทุกวันนี้ตนได้รับเงินช่วยเหลือจากเบี้ยผู้สูงอายุกับคนพิการที่ได้มาในแต่ละเดือน ไปซื้อมาม่าและน้ำดื่มมาตุนเก็บไว้ที่บ้านเพื่อใช้กินประทังชีวิต
ลุงสมรักษ์ กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากที่บ้านตนมีหนูเยอะ ตนจึงต้องนำมาม่าไปเก็บไว้ในโอ่งน้ำแทนแล้วปิดฝา เพราะหากเก็บไว้บนบ้านก็จะถูกหนูมารุมกัดแทะจนเกือบหมด จะทำให้มีมาม่าไม่พอกิน ซึ่งเวลาที่ตนหิวตนก็จะนำเส้นมาม่าไปแช่น้ำไว้รอให้เส้นมันนุ่มจึงนำมากินต่อได้ง่าย ไม่ต้องต้ม หรือไม่ตนก็กินเส้นมาม่าดิบๆ ไปเลย ซึ่งสะดวกกว่าที่จะนำไปต้มให้สุก เพราะที่บ้านตนเตาแก็สก็ไม่มี น้ำไฟก็ไม่มี จึงต้องอาศัยเส้นมาม่าแช่น้ำประทังชีวิตไปในแต่ละมื้อ
ลุงสมรักษ์ กล่าวอีกว่า ความลำบากที่สุดของตนในตอนนี้คือเรื่องของน้ำประปาที่ตนไม่มีใช้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนไฟฟ้าก็ถูกตัดมานานเกือบ 20 ปีเช่นกัน เรื่องไม่มีไฟฟ้าใช้นั้นสำหรับตนจะมืดหรือสว่างมีค่าไม่แตกต่างกัน เพราะตนตาบอดอีกข้างก็มองเห็นลางๆ จะไม่มีไฟฟ้ามีแสงสว่างหรือไม่ ไม่มีผลกับตน แต่ที่เดือดร้อนมากที่สุดคือเรื่องของน้ำประปา ที่ตนไม่มีใช้อาบใช้กินเลย ทุกวันนี้ตนจะอาบน้ำเพียงเดือนละครั้งเท่านั้นจากน้ำขวดที่ซื้อมา หรือมีเพื่อนบ้านเอามาบริจาคช่วยเหลือ เพราะต้องออกไปติดต่อเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงเพื่อนำไปซื้อมาม่ากับน้ำดื่มมาตุนในแต่ละเดือน หากจะมีใครหรือความช่วยเหลืออะไรมาช่วยตนจริงๆ ตนขอเป็นแค่เรื่องน้ำประปาเรื่องเดียวพอ เรื่องไฟฟ้าไม่จำเป็นสำหรับตน เรื่องทำความสะอาดขยะที่เรี่ยราดเกลื่อนบ้านนั้น ก็ไม่ต้อง ตนขอเป็นคนจัดการเอง เพราะตนไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ตนชอบใช้ชีวิตสงบๆ แบบนี้ แม้บางครั้งจะมีความคิดถึงอดีตภรรยาอยู่บ้างก็ตาม
ด้าน นางวิมลศรี มีสมสังข์ เจ้าหน้าที่ อสม.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ อสม.มาพบเจอลุงเดินอยู่บนถนนในซอย ในลักษณะเดินตามเส้นขาวบนถนนตรงเป๊ะ ทีแรกก็ไม่มีใครรู้ว่าลุงตาบอดมองเห็นลางๆ จนได้เข้าไปพูดคุยด้วยจึงทราบว่าลุงแกเป็นผู้พิการทางสายตา อาศัยอยู่บ้านหลังเก่าตามลำพัง จึงลงพื้นที่มาตรวจสอบ พอเห็นสภาพบ้านกับความเป็นอยู่แล้ว ก็อดสงสารไม่ได้ ทุกวันนี้ตนต้องคอยแวะมาดูนำน้ำดื่มมาให้ลุง
นางวิมลศรี กล่าวอีกว่า จากการสอบถามลุงทราบว่า แกอยู่เพียงลำพังคนเดียวไม่มีพี่น้องครอบครัวมาดูแล ลุงแกอยากได้น้ำประปาไว้ใช้มากกว่าไฟฟ้า เพราะตาแกมองไม่เห็น ไฟฟ้าจึงไม่มีประโยชน์สำหรับแก ที่ผ่านมาตนได้ไปติดต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับลุงมานานเป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดติดต่อกลับมา ประกอบกับตนมีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง จึงไม่มีเวลาไปตามเรื่องที่แจ้งจอความช่วยเหลือไว้ ยิ่งมาทราบว่าในแต่ละวันลุงแช่มาม่ากินแทนข้าวด้วยแล้ว ก็รู้สึกสงสารแกมากขึ้น ซึ่งแกก็มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยผู้พิการเดือนละพันกว่าบาทเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้แต่รอกันว่าจะมีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี