อสส.ส่งหนังสือถึง ผบ.ตร.ขอตรวจสอบกรณีตำรวจเว็บพนันมินนี่ เเอบถ่ายอธ.อัยการผิดคดีอาญาหรือไม่ หากผิดต้องดำเนินคดี ให้อธ.อัยการสอบสวน พักการปรึกษาจนกว่าจะมีมาตรการคุ้มครอง โฆษกอัยการรับกระทบการสืบสวนสอบสวนคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุม 100 ปี ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายประยุทธ เพรชคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย ,นายณรงค์ ศรีระสันต์ และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ 2 รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าว คดีที่อัยการถูกถ่ายภาพข่มขู่คุกคาม
นายประยุทธ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึง กรณีที่อัยการสูงสุดมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ขอให้กำหนดความคุ้มครองความปลอดภัยกับ พนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด 2 คนที่เข้าร่วมให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวน คดีที่จับกุมเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์(มินนี่) จำนวน 2 คน คือ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้กับพวกจำนวน 8 คน ที่ยังรับราชการตำรวจอยู่ มีพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามจากการเข้าไปให้คำแนะนำในการสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอในคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ (มินนี่) เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ของอัยการทั้ง 2 คน ต่ออัยการสูงสุด พร้อมกับแนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของนายกุลธนิตและนายสุริยน ในขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย โดยผู้ถูกถ่ายภาพไม่ยินยอมและไม่รู้ตัว เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ในเชิงการคุกคามข่มขู่ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัว จึงขอพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะพนักงานสอบสวนชั่วคราว จนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้ ทำหนังสือถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการในประเด็นต่อไปนี้คือ
1.ขอให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่อัยการทั้ง 2 คน
2.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว และดำเนินมาตรการไม่ให้ผู้ต้องหายังคงรับราชการเป็นตำรวจทั้ง 8 คน คุกคามข่มขู่พนักงานอัยการและขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน
3.ให้อัยการทั้ง 2 คนหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามข้อ 1 และข้อ 2 แล้วเสร็จ
4.หากพนักงานอัยการเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้ว ให้เรียนอัยการสูงสุดทราบและแจ้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ต่อไป
และ 5. ขอให้ผบ.ตร. ตรวจสอบหากพบบุคคลกระทำความผิดอาญาให้ดำเนินคดีและรายงานผลคดีให้อัยการสูงสุดทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้ากลับมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการพักการร่วมสอบสวนในคดีนั้น จะมีผลต่อความล่าช้าในการสอบสวนหรือไม่นั้น เชื่อว่ามีอาจส่งผลกระทบเพราะทางนายกุลธนิตถือเป็นข้าราชการระดับอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนซึ่งมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ขอความร่วมมือมาทางอัยการเอง
ด้าน นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หากผบ.ตร.ตรวจสอบแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายข่มขู่คุกคาม ก็ขอให้ผบ.ตร.เป็นผู้พิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายภาพพนักงานอัยการระดับสูงในการปฏิบัติงาน เป็นการสะท้อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า หากกรณีนี้เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปก็จะลำบากยิ่งขึ้น โดยเรื่องนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถดำเนินการได้เลย แต่ทางอัยการจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี