สองผัวเมียชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมหญิงวัย 16 แอบพาลูกสาว 4 ขวบไปขี่ จยย.โดยไม่ได้รับอนุญาตข้ามเลนพุ่งชนกระบะจนลูกสาวเสียชีวิต ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนไร้คนรับผิดชอบ ตั้งสวดศพลูกวันเดียวเผาเพราะไม่มีเงิน ตรวจสอบข้อมูลพบรถทั้งสองฝ่ายไม่มี พ.ร.บ.แต่เอาผิดใครไม่ได้ หวั่นลูกตายฟรี ตำรวจเผยรอหญิง 16 บาดเจ็บอาการดีขึ้นเตรียมแจ้งข้อหา
วันนี้ (23 ก.พ.67) นายยอดศักดิ์ อายุ 30 ปีและ น.ส.บุษบา อายุ 44 ปี สองสามีภรรยาชาวอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่าขายและรับจ้างทั่วไปได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันได้แอบพา ด.ญ.พราวณดา หรือน้องพราว อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับอนุญาต โดย น.ส.เอ ได้พาลูกสาวนั่งรถจักรยานยนต์ออกไปกับนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 45 ปีซึ่งเป็นผู้พิการทางสติปัญญา พอรู้ว่า น.ส.เอ เป็นคนพาลูกสาวออกไป ผู้เป็นแม่ก็ให้สามีขับรถจักรยานยนต์ตามไปเอาลูกกลับมาคืน แต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.(11 ก.พ.) รถจักรยายนต์ที่ น.ส.เอ ขับขี่พาลูกนั่งไปด้านหน้าและให้ชาย 45 ซ้อนท้าย เกิดอุบัติเหตุในลักษณะข้ามเลนไปชนกับรถกระบะบรรทุกไม้ยูคาฯ บนถนนสายบ้านร่อนทอง-ละหาร ต.ร่อนทอง อ.สตึก จนเป็นเหตุให้ลูกสาวซึ่งนั่งด้านหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วน น.ส.เอ และ นายเอ็ม ได้รับบาดเจ็บ
แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ก็ยังไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบอะไร ตำรวจบอกว่าฝั่งรถกระบะเขามาถูกเลน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่แอบพาลูกออกไปก็ยังเป็นเยาวชนไม่รู้จะเอาผิดได้แค่ไหน และเท่าที่ทราบข้อมูลทั้งรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มี พ.ร.บ.ทั้งสองคัน แต่เอาผิดกับใครไม่ได้ จึงเกรงว่าลูกสาวของตนเองจะตายฟรี ขณะที่ครอบครัวก็ฐานะยากจนจึงตั้งสวดอภิธรรมคืนเดียวแล้วเผาเลย
น.ส.บุษบา ผู้เป็นแม่ บอกว่า วันเกิดเหตุตนกับสามีและลูกสาวกำลังช่วยกันคัดขวดพลาสติกเพื่อจะเอาไปขายจังหวะนั้นนายเอ็มที่มากับ น.ส.เอ อายุ 16 ปี ได้มาขอยาสูบจากสามี สักพักก็ไม่เห็นลูกสาวแล้ว จึงคาดว่า น.ส.เอ น่าจะแอบพาลูกสาวไปด้วย จึงบอกให้สามีรีบขับ จยย.ตามไปเอาลูกกลับมาคืน แต่ก็มาทราบข่าวร้ายว่ารถที่ น.ส.เอ ขับข้ามเลนไปชนกระบะจนลูกสาวตนเองเสียชีวิตแต่กลับไม่มีใครรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ญาติของ น.ส.เอ มาช่วยงานศพแค่ 1,000 บาท ส่วนรถกระบะช่วยแค่ 2,000 บาท ขณะที่ตำรวจ บอกว่า ฝั่งรถกระบะมาถูกเลน ส่วน จยย.ก็เป็นเยาวชน จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ล่าสุดได้มีการนัดพูดคุยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านโดยฝั่งตนเสนอให้เยียวยา 500,000 บาท แต่ญาติของ น.ส.เอ อายุ 16 ปี ไม่ได้รับปากว่าจะเยียวยาหรือไม่ บอกแค่ว่าขอปรึกษาญาติและนัดคุยกันใหม่ ในวันที่ 28 ก.พ.67
ด้านนายยอดศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ บอกว่า วันเกิดเหตุพยายามขับรถตามจะไปเอาลูกกลับคืน แต่ระหว่างทางรถที่ น.ส.เอ ขับพาลูกสาวของตนไปด้วย ข้ามเลนไปชนกับรถกระบะจนทำให้ลูกเสียชีวิต วันนั้นตนก็ไปถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นนอนนิ่งแต่ยังไม่ทันสิ้นใจ จึงบอกลูกว่าพ่อมาแล้ว ไม่นานลูกก็เสียชีวิต เสียใจมากเพราะไม่ได้อนุญาตให้เขาเอาลูกไปก็เหมือนขโมยพาไป แต่พอเกิดอุบัติเหตุลูกตายกลับเอาผิดกับใครไม่ได้ กลัวลูกตายฟรี จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม
จากการสอบถามตำรวจ สภ.สตึก ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน ก็ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและบันทึกภาพหลักฐานไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ น.ส.เอ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อาการดีขึ้น แล้วจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำและแจ้งข้อหากล่าวหา ในฐานะคนขับขี่ หากรถ จยย.ไม่มี พ.ร.บ.ก็ต้องฟ้องเอาผิดกับผู้ปกครองด้วย ส่วนรถกระบะคู่กรณีซึ่งมาถูกเลนแต่หากไม่มี พ.ร.บ.ก็จะถูกเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายจราจร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี