วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ร้อนตับแตก!สธ.เตือนปีนี้แตะ 44.5 องศาฯ ‘กลุ่มเสี่ยง’ระวัง‘ฮีทสโตรก’

ร้อนตับแตก!สธ.เตือนปีนี้แตะ 44.5 องศาฯ ‘กลุ่มเสี่ยง’ระวัง‘ฮีทสโตรก’

วันพุธ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 18.47 น.
Tag : ฤดูร้อน หน้าร้อน สธ. ร้อนตับแตก 44.5องศาฯ กลุ่มเสี่ยง ฮีทสโตรก
  •  

‘ปลัดกระทรวงสาธารณสุข’เผยไทยเข้าสู่‘ฤดูร้อน’แล้ว ปีนี้อากาศจะร้อนกว่าปีก่อน อุณหภูมิสูงสุดถึง 44.5 องศาเซลเซียส ห่วงประชาชนเสี่ยงภาวะ‘ฮีทสโตรก’อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขอให้กลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงอยู่กลางแดดนานๆ ส่วนคนทำงานกลางแจ้งให้สลับเข้าที่ร่มเป็นระยะ แนะวิธีป้องกัน สังเกตอาการและปฐมพยาบาล

28 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าอุณหภูมิปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน อาจถึง 44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยดูได้จากค่าดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นค่าที่สะท้อนความรู้สึกร้อนของร่างกาย จากการนำอุณหภูมิของอากาศมาคิดร่วมกับความชื้นสัมพัทธ์ เนื่องจากเมื่อความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้เหงื่อระเหยยาก และส่งผลให้รู้สึกร้อนกว่าอุณหภูมิจริงของอากาศ หากค่าดัชนีความร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส จะมีความเสี่ยงเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้


“กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน จึงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงแต่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน จะมีโอกาสเกิดฮีทสโตรกได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องทำงานกลางแจ้ง ควรเลี่ยงการสวมชุดที่มีสีเข้ม เนื่องจากจะดูดซับความร้อนได้ดี ดื่มน้ำมากๆ และสลับเข้าพักในที่ร่มเป็นระยะ เช่น ทุก 30 นาที หรือทุกชั่วโมง” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า อาการสำคัญของโรคฮีทสโตรค คือ วิงเวียน อ่อนเพลีย ร่างกายมีความร้อนเพิ่มขึ้น เหงื่อไม่ค่อยออก ผิวร้อน แดง แห้ง หากเริ่มมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น และดื่มน้ำมากๆ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าและสะโพกสูง คลายเสื้อผ้าให้หลวม ถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ซอกคอ รักแร้ และศีรษะ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดตันทางเดินหายใจ และหากปฐมพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือโทรแจ้งสายด่วน 1669

ทั้งนี้ สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคฮีทสโตรกได้ด้วยการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแดดนานเกินไป หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก โดยเฉพาะการออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่หากต้องการออกกำลังกาย ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ หากสูญเสียเหงื่อมากควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่ 2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน 3.ออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น หรือเปลี่ยนมาออกกำลังกายภายในอาคาร หรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท 4.สวมชุดออกกำลังกายที่ระบายความร้อนได้ดี และ 5.ออกกำลังกายเป็นกลุ่ม เพื่อหากมีอาการผิดปกติได้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิด

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • วันนี้หนักอีก! ทั่วไทยฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.โดนร้อยละ 60 วันนี้หนักอีก! ทั่วไทยฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.โดนร้อยละ 60
  • กรมอุตุฯ 45 จังหวัดฝนตกหนัก ระวังท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.โดนด้วย กรมอุตุฯ 45 จังหวัดฝนตกหนัก ระวังท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.โดนด้วย
  • วันนี้หนักอีก! ฝนถล่มทั่วไทย ระวังน้ำหลาก-น้ำท่วมฉับพลัน วันนี้หนักอีก! ฝนถล่มทั่วไทย ระวังน้ำหลาก-น้ำท่วมฉับพลัน
  • สภาพอากาศวันนี้! ไทยตอนบนมีอากาศร้อน เตือน 55 จังหวัด พายุฝนถล่ม-กทม.โดนด้วย สภาพอากาศวันนี้! ไทยตอนบนมีอากาศร้อน เตือน 55 จังหวัด พายุฝนถล่ม-กทม.โดนด้วย
  • สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯ เตือน 53 จังหวัด พายุฝนถล่ม ลมแรง \'เหนือ\'อากาศร้อนทะลุ 41 องศา สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯ เตือน 53 จังหวัด พายุฝนถล่ม ลมแรง 'เหนือ'อากาศร้อนทะลุ 41 องศา
  • สภาพอากาศวันนี้! อากาศแปรปรวน ทั่วไทยมีอากาศร้อนแต่มีฝนฟ้าคะนอง สภาพอากาศวันนี้! อากาศแปรปรวน ทั่วไทยมีอากาศร้อนแต่มีฝนฟ้าคะนอง
  •  

Breaking News

น่ากังวล! 'กอบศักดิ์' ชี้ 2 ปัญหาใหญ่ฉุดเศรษฐกิจไทย แม้ จีดีพี ไตรมาสที่ 1 สวยหรู

ระทึกเช้านี้! นักเรียนวิ่งกระเจิง ไฟไหม้อาคาร'มัธยมวัดหนองจอก' ดับเพลิงรุดเข้าควบคุม

'สรุเดช'เผย เฟ้นหาผู้สมัครเกรด A-B ภาคเหนือตอนบน มั่นใจเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 เขต

'อ.คมสัน'กางกฎหมายฟันธง! 'ทักษิณ'หนีแน่ๆ ชี้ถ้าติดคุกน่าจะอยู่จนตายไม่ได้ออก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved