ฝรั่งเตะหมออ่วม!

ผบช.ภ.8 เพิกถอนวีซ่า-จ่อส่งกลับ

‘บิ๊กต่อ’สอบตำรวจรับเงินมาเฟีย

รองผวจ.ภูเก็ต ชี้ “เดวิด” ทำร้ายหมอ วีซ่าหมดอายุ 13 มีนาคมนี้ สั่งลุยสอบมาเฟียต่างชาติ ด้าน ผบช.ภ.8 สั่งเพิกถอนวีซ่าแล้ว จ่อส่งกลับประเทศ ขณะที่ผบ.ตร.ให้จเรตำรวจ สอบปมมีตำรวจรับเงินมาเฟียต่างชาติ ส่วน “วัชระ” จี้ ปปง.สอบ “เดวิด” กระทำผิดเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ ขอให้เร่งยึดทรัพย์-เนรเทศ

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายอดุลย์ ชูทอง รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่นายออสบีทเฟร์ หรือเดวิด อายุ 45 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ทำร้ายร่างกาย พญ.ธารดาว จันทร์ดำ เหตุเกิดที่วิลล่า บริเวณหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าจากการตรวจสอบกับทาง ตม.ทราบว่านายเดวิด มีวีซ่าประกอบธุรกิจและได้จดทะเบียนมูลนิธิฯ ไว้ จึงมีการตรวจสอบว่ามูลนิธิฯ ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะเพิกถอนมูลนิธิฯ ต่อไป สำหรับการตรวจสอบการทำธุรกิจ การจดทะเบียนธุรกิจ ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ

อย่างไรก็ดี ในส่วนของวีซ่าของนายเดวิด มีรายงานว่าจะอยู่ได้ถึงวันที่ 13 มีนาคมนี้ ดังนั้นในช่วงนี้ก็จะมีการพิจารณาว่าจะต่อวีซ่าให้หรือไม่

นอกจากนี้ทางเทศบาล ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ได้ตรวจสอบกรณีการก่อสร้างวิลล่า ว่ามีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ก็จะมีการออกประกาศเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อให้เพิกถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน หากครบกำหนดแล้วไม่รื้อถอน ทางท้องถิ่นก็ต้องรื้อถอนและเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิดต่อไป

ขณะที่หลักฐานในที่ดินนั้น ทางกรมที่ดิน ต้องตรวจสอบว่าโฉนดที่ดินซึ่งเป็นหลักฐานถูกต้องหรือไม่ หากที่มาของที่ดินไม่ถูกต้องก็จะมีการพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการ ซึ่งทางจังหวัดยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคนไทย ส่วนการเรียกร้องของชาวบ้านที่มีการรวมตัวกันเคลื่อนไหวทวงคืนชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ให้เป็นหาดสาธารณะนั้น ยืนยันว่าทางจังหวัดได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยให้นายอำเภอและเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว

ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพล นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ต ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบพฤติกรรมของชาวต่างชาติ ว่ามีรายใดที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟีย คุกคาม ข่มขู่ ประกอบอาชีพผิดกฎหมายต่างๆ โดยเร่งตรวจสอบและขึ้นบัญชีหรือรายงานให้ทางจังหวัดดำเนินการ โดยมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิกถอนวีซ่า และอาจจะมีการขึ้นบัญชีดำ ไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศอีก ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ท.สรุพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวถึงกรณีนายเดวิด ทำร้ายร่างกาย พญ.ธารดาว ว่าทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนในความผิดอื่นๆ ประกอบด้วย ขับรถประมาทหวาดเสียว ข่มขู่ และร้องทุกข์กล่าวหา ว่าที่ ร.ต.วิบูลย์ ฮ้อบุตร พลขับ รพ.ถลาง หมิ่นประมาทฯ ปัจจุบันถอนคำร้องทุกข์ ที่ สภ.เชิงทะเล , ปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธารณะ การออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบต้องตรวจสอบ , ปัญหาขัดแย้ง-ทะเลาะวิวาท ผู้ให้เช่าอาคารที่ตั้งสำนักงาน แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่คู่กรณี ที่รอการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นายเดวิด เป็นกรรมการผู้จัดการ บจก.อีเลเฟนท์แซงชัวรี่พาร์ค (เลี้ยงและจำหน่ายอาหารช้าง) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรด้วยเงื่อนไขมีเหตุจำเป็นทางธุรกิจ และ เป็นคู่สมรสของผู้ที่มีสัญชาติไทย อย่างไรก็ดี นายเดวิด เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย ข่มขู่จะก่อเหตุร้ายอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12 (7) ทางตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่ง ตม.ภูเก็ต เพื่อขอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวแล้ว หากได้รับผลการพิจารณาคดีอาญา จะส่งไปประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ต่อไป

นอกจากนี้กรณีที่นายเดวิด กล่าวอ้างถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคล ทั้งใช้กำลังประทุษร้าย ดูหมิ่น ดูแคลน เกินสมควร จึงเกิดการทวงถามถึงการได้รับความคุ้มครอง ความสุภาพ และเคารพซึ่งกันและกัน ตลอดจนความยุติธรรมในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น แต่ความกังวล ความห่วงใย มีหลากหลายความคิด สภาพสังคมของ จ.ภูเก็ต ชาวต่างชาติที่มาแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มนักท่องเที่ยว มาพักอาศัย ประกอบธุรกิจ ลงทุนร่วมกับนิติบุคคลสัญชาติไทย ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป สิ่งจำเป็นคือต้องไม่ให้มีการละเมิดกฎหมาย หากมีผู้ใดละเมิดกฎหมาย ต้องถูกบังคับใช้กฎหมาย

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งให้ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์แฉพฤติกรรมของนายตำรวจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อาจจะมีการรับเงินจากชาวต่างชาติ หรือแก๊งมาเฟียต่างชาติ ซึ่งหากกระทำความผิดจริง หรือมีตำรวจคนไหนไปรับเงินจริง โดยมีมาเฟียต่างชาติที่จ่ายเงินดูแล ก็ต้องยอมรับสภาพ

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้จเรตำรวจจากส่วนกลาง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะถูกครหาได้ว่าตำรวจท้องที่ช่วยเหลือกัน หรือเกิดความไม่โปร่งใสขึ้น ซึ่งเราจะให้จเรตำรวจจากส่วนกลาง ลงไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ขอย้ำว่าตำรวจทั่วประเทศ ทั้งตำรวจท้องที่และตำรวจท่องเที่ยวนั้น ตนเคยสั่งการไปแล้วว่าให้เอาจริงเอาจังกับมาเฟียชาวต่างชาติ ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ใช่แค่ จ.ภูเก็ต แต่รวมถึง กทม.ชลบุรี เชียงใหม่ หรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า หลังจากได้สะท้อนปัญหาจากการลงพื้นที่รับฟังความเห็นและเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการสถานบันเทิง พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถรับจ้างในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กรณีมีกลุ่มนายทุนต่างชาติ เข้ามาประกอบธุรกิจแย่งอาชีพ ทำให้ได้รับผลกระทบ เมื่อแจ้งเรื่องนี้ไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ทราบว่าได้มีการสั่งการ ผวจ.ภูเก็ต อธิบดีกรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ปัญหาทันที และขอให้เร่งสแกนพื้นที่ปราบปรามและกวาดล้างมาเฟียต่างชาติ ตัดวงจรการฟอกเงินในธุรกิจสีเทา ที่มาในรูปแบบการแอบอ้างเรื่องความสัมพันธ์กับคนไทยผ่านการแต่งงานเป็นสามีหรือภรรยากับคนไทย

ขณะที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อยื่นหนังสือถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง.และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง.ขอให้ตรวจสอบนายเดวิด ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของปางช้างแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต มีการเช่าช้างมาประกอบธุรกิจศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต ในนามบริษัท อีเลเฟนท์ แซงชัวรี่ พาร์ค ภูเก็ต จำกัด แต่มีข่าวว่าซื้อช้างมาอนุรักษ์แค่ตัวเดียว ที่เหลือคือการเช่าช้างมาประกอบธุรกิจ เรียกรับเงินบริจาค อีกทั้งวิลล่าที่นายเดวิด เช่าอาศัยอยู่ มีค่าเช่าสูงถึง 1 ล้านบาทต่อเดือน จึงเป็นที่สงสัยว่ามีรายได้จากการประกอบธุรกิจอะไร จึงมีชีวิตที่หรูหราใน จ.ภูเก็ต กอปรกับมีพฤติกรรมที่อาจทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล ก้าวร้าว ทำร้ายคนไทย ฯลฯ เพื่อให้คลายความกังวลและข้อสงสัยจากพี่น้องประชาชนและศักดิ์ศรีของประเทศ จึงขอให้เลขาธิการ ปปง.ตรวจสอบว่านายเดวิด มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานฉ้อโกง อั้งยี่ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทรัพยากรธรรมชาติหรือกฎหมายอื่นใดหรือไม่

นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบมูลนิธิฯ ของนายเดวิด ว่าผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ หากพบพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐาน ก็ขอให้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินและดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยเร็วที่สุด และเห็นสมควรให้ตรวจสอบมูลนิธิฯ และบริษัทของนายเดวิด หากเป็นภัยต่อสังคมก็ควรเนรเทศออกนอกประเทศไทยโดยเร็วที่สุด